ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ท่านพระเจ้าและท่านมารดาแห่งเรามีการปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องในเมืองจาคาไร, สถานที่นี้อยู่ในรัฐเซาเปาลู ประเทศบราซิล เวลา 6:30 น. (เวลาท้องถิ่น) ท่านนักบุญมารีย์ทรงปรากฏตัวเป็นราชินีและส่งเสริมความสงบสุข และเรียกให้คนทั้งโลกรับการเปลี่ยนแปลงใจผ่านชายหนุ่มชื่อ มาร์คอส ตาเดว เทย์เชร่า ซึ่งในตอนเริ่มต้นของการปรากฏตัวนั้นมีอายุเพียง 13 ปี เขาถูกทรงพระเมตตามีประสบการณ์หลายครั้ง เช่น การเห็นภาพลวงตา, ความเจ็บปวดจากความเป็นนักบุญของเยซูและมารีย์, พรแห่งความสามารถในการพยากรณ์อนาคต, สามารถกลิ่นหอมของน้ำมันได้ และด้วยคำอธิษฐานของเขา คนที่ถูกสาปแช่งก็จะปลดปล่อยจากปีศาจและคนไข้หลายคนก็สามารถรักษาหัวใจให้ดีขึ้น เขาทรงกล่าวว่า การปรากฏตัวครั้งนี้เป็นการปรากฏตัวอย่างหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเรา และ ท่านมารีย์ทรงบอกว่าการปรากฏตัวครั้งนี้คือการปรากฏตัวลำดับสุดท้ายสำหรับมนุษยชาติ.

เรื่องราวที่เริ่มต้น...

การปรากฏตัวครั้งแรก
วันพฤหัสบดี, 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991

ในเช้าวันที่ 7 กุมภาพันธ์ มาร์คอส ตาเดว ชายหนุ่มอายุ 13 ปี ได้ออกไปซื้อของตามข้อมูลจากแม่ และเมื่อกลับมา เขาตัดสินใจหยุดพักเล็กน้อยที่โบสถ์พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งอยู่ประมาณ 4 กิโลเมตรจากบ้านเขา เขารู้สึกต้องการไปภายในเพื่อทำพิธีขอรักษาหัวใจ และตามคำพูดของเขาว่า "ฉันไม่เคยทราบว่ามาลาคาร์มีความหมายอย่างไรก็ดี ฉันสามารถกล่าวได้แต่บิดาเรา, พระนางมารีย์และพระเกียรติยศเท่านั้น ที่ต้องการทำพิธีขอรักษาหัวใจในโบสถ์นั้น และเหตุผลที่ฉันเข้าไปก็ไม่ทราบ" เขาก้มหงายลงเพื่อกล่าวคำวินิจฉัยและเมื่อสิ้นสุดแล้ว เขาถูกประหลาดใจจากปรากฏการณ์แปลกๆ ที่ทำให้เขาเสียสติและอ่อนล้า ตามคำพูดของเขานั้นว่า:

"ฉันกำลังกล่าวบิดาเรา, พระนางมารีย์ และพระเกียรติยศ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทราบว่าจะทำพิธีขอรักษาหัวใจ เมื่อฉันจะจบคำสรรพนามด้วยการทรงเครื่องหมายก็ถูกหยุดชะงัก ฉันมองไปหน้า และมีลมพัดเข้ามา ทั้งหมดนี้ทำให้เสื้อผ้าของฉันสั่นไหวและอย่างรวดเร็วมากที่สุด ฉันเห็นแสงกลางอากาศเป็นวงกลมปรากฏขึ้นบนแท่งเทียน ซึ่งมีความสว่างกว่าแสงอาทิตย์ ฉันรู้สึกตัวของฉันถูกขับออกจากโลกนี้ และไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ไม่สามารถเคลื่อนไหว, กล่าวหรือยืนขึ้นมา หรือวิ่งหนีไปได้ ฉันเห็นแสงนั้นครอบคลุมทั้งแท่งเทียนและฉันก็ได้ฟังเสียงที่ชัดเจนอย่างเสียงร้องของกระดิ่งจากผู้หญิง ซึ่งมีความหวาน และอ่อนโยนมาก ทำให้กล่าวว่า:

"ลูกคนเดียว, ลูกคนเดียว! คุณต้องทำตัวเป็นศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์นั้นมีทางที่ยาก แต่... ผลสุดท้ายของมันคือจริงและรุ่งโรจน์..."

ความหวานของเสียงนั้นทำให้มาร์คอสตื่นเต้น! ความหวานและอ่อนโยนของเสียงนั้น ทำให้องค์ไม่ทราบว่าตัวเองอยู่ในโลกนี้หรือฝัน หรืออยู่นี่หรือสวรรค์ เขาอยากจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาไม่อาจสิ้นสุด และฟังเธอ! สิ่งทั้งหมดกลายเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีความหมายต่อเขาแล้ว!

ทันใดนั้นแสงสว่างดับไป ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เขาเห็นและไม่พบผู้ใดในโบสถ์ที่จะเล่ากลับให้เขาถึงเรื่องนี้ เขาตะลึงใจ เราจะได้อะไรจากนั้น? ก็เพื่อความปลอดภัย เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่บอกใคร

มารคัสกลับไปที่บ้านในสภาพตื่นเต้นและหวาดผวา ไม่เข้าใจอะไรเลย เราจะได้เสียงนั้นจากไหน? และแสงสว่างนั้น ที่ไม่มีใครเทียบเคียงกันในโลกนี้

การปรากฏตัวครั้งที่สอง
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991

ตั้งแต่ครั้งแรกนั้น มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับเด็กชายคนนี้ เขารู้สึกเหมือนถูกขับเคลื่อน ถูกร้องเรียกให้ทำน้ำมนต์ เป็นอย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่ทำให้เขารำคาญ แต่ในเวลาเดียวกัน อากาศแห่งความสงบสุขอันลึกลึก ที่ไม่เคยประสบมานี้ จับจองเขา เขาพบรอยประทีปในหนึ่งในช่องของตู้ในบ้านและมีใจปรารถนาที่จะทำมนต์ด้วยมัน แม้ว่าเขาจะไม่ทราบวิธีนั้นอย่างแน่นอน เพียงเพื่อที่เขารู้ว่าต้องพูดพระเจ้าของเรา และสวดพระคุณหญิง เขาพบความปลอดภัยที่ต่างจากสิ่งอื่นใด! ความอยากของเขาถูกชำระด้วยการทำมนต์ร้อยปรกับและประสบกับความสงบสุขและความยินดีที่ไม่สามารถอธิบายได้ ตั้งแต่นั้นมา มีร้อยปรกับมากขึ้น และมีร้อยปรกับมากขึ้น สวดไปทั่ววันโดยถูกกระตุ้นด้วยจิตใจลึกลับ

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 เป็นวันที่พระนางปรากฏตัวครั้งที่สอง มารคัส ตาเดว์ บรรยายว่า

"ขณะนั้นฉันกำลังทำมนต์ร้อยปรกับ และในหน้าของฉัน ในห้องรับแขกของบ้านฉัน ฉันเห็นแสงสว่างที่เข้มแรงยิ่งนัก มากไปกว่าแสงอาทิตย์เอง ฉันตื่นเต้นอย่างมหาศาลและอีกครั้งหนึ่งฉันเป็นคนไร้สมาธิ ฉันเข้าใจได้ว่านี่คือแสงสว่างเดียวกันที่ฉันเห็นในโบสถ์ และจากพื้นหลังของแสงนั้น รูปแบบของมนุษย์ปรากฏขึ้น เธอเดินมาประชิด ฉันสามารถดูเธอมองได้อย่างชัดเจน: นางเป็นหญิงวัยราว 18 ปี สวมเสื้อสีเทาเล็กน้อยที่เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงิน เสื้อกระโปรงขาวบริสุทธิ์ มงกุฎสิบสองดวงดาราที่หัว และผ้าเชือกรอบคอสีขาวยาว ผ่านมือของเธอนั้นมีร้อยปรกับที่เป็นลูกประทีปแสงสว่าง ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงใครงามเท่านี้ เธอมองฉันด้วยความหวังใจอย่างอ่อนโยน ให้ฉันเดินมาประชิด แต่ฉันไม่ไป เพราะฉันกลัว แล้วเธอก็เดินมาเพิ่มขึ้น ฉันไม่มีขวัญกำลังพูดอะไรกับเธอนั้น เธอมองด้วยสายตาสีฟ้าที่จะทำให้คนใคร่ไม่ลืม ต่อจากนั้นฉันรู้สึกกล้าที่จะถามเรื่องหนึ่ง ฉันถาม:

"ท่านผู้หญิงคืออะไรก็ตาม?"

(เพียงยิ้มเท่านั้น)

"ท่านต้องการให้ฉันอยู่ที่นี่ (ในแสงสว่างนี้) กับพระนาง? และดูเถิด พระนางงามเปรียบกับปากสีชมพู่ของเธอ เปิดขึ้นเพื่อพูดกับฉันทั้งว่า:

"ใช่ลูกผู้ชาย เพราะฉันรักท่าน.... แต่ฉันไม่ต้องการให้ท่านมาเดี่ยว ใคร่มาเยือนด้วยหลานๆ ของฉันที่ฉันรัก..."

"ทันทีนั้น พระนางสาวงามยิ้มอยู่เสมอเริ่มเข้าประชิดฉัน ฉันตื่นเต้นและหวาดผวาเมื่อภาพลักษณ์แสงสว่างเล็กลงมาเพื่อกอดฉัน! สถานการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้! ฉันแม้จะรู้สึกจิตใจของเธอโบยตัว

ทันทีที่นางสาวผู้มีแสงสว่างล่วงหน้าไปจากเขา เขารู้สึกเศร้าประหลาดใจและตาของมาร์คอส์เต็มไปด้วยน้ำตาหัวใจ

แล้วพระจันทร์หายไป ทุกสิ่งทุกรูปแบบล่วงหน้าไป พระจันทร์ผู้มีแสงสว่างหายไปกับรอยยิ้ม และแสงสว่างดับลง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุขและความรักที่ไม่เคยปรากฏบนโลกใดๆ เพื่อหวังจะหลีกเลี่ยงคนอื่น เขาตัดสินใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับในตัวเอง

การปรากฎครั้งที่สาม
ทดสอบน้ำมันศักดิ์สิทธิ์

มาร์คอส์เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไปเรื่อยๆ แต่ในวันหนึ่ง เขาเล่าถึงป้าและเพื่อนบางคนอย่างไม่มีข้อจำกัด พวกเขาก็สงสัยว่ามีสิ่งใดขึ้นอยู่แล้ว ส่วนมาร์คอส์เอง กระทั่งพูดกับพวกเขา เขารู้สึกสงสัย "ถ้าสิ่งนี้เป็นของชั่วร้ายอย่างไรกัน?" ตามที่คนบางส่วนแนะนำ มาร์คอส์ได้น้ำมันศักดิ์สิทธิ์กลับไปยังบ้าน เพื่อจะฉีดยาเย็นๆ ที่ "นางสาวผู้มีแสงสว่าง" ถ้าเธอกลับมาใหม่ เขาตัดสินใจว่า จะฉีดยานี้ และเห็นว่าสิ่งนี้เป็นของดีหรือชั่วร้าย ในเดือน สิงหาคม ค.ศ. 1991 เมื่อเขากำลังประกอบพิธีกรรมในบ้านอีกครั้ง นางสาวผู้มีแสงสว่างกลับมาและยืนอยู่หน้าหมู่

"ฉันยังมีเวลาเอาแก้วของน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ และฉีดยานี้ไปที่เธอ พูดว่า 'ถ้าเป็นจากพระเจ้า ให้อยู่! ถ้าอื่นๆ ก็หายไป!'

เธอยิ้มนั้นและบอกกับผมว่า:"

"ลูกของฉัน ฉันไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย ฉันมาจากสวรรค์!... "

"นางสาวยิ้มและดูขึ้นไปที่สวรรค์แล้วหายไป!"

ในปีนั้น ค.ศ. 1991 นางสาวไม่ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกเพื่อเตรียมผู้ถูกเลือกให้รับภารกิจใหญ่ขึ้น ในการทดลองน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ มาร์คอส์ได้ความปลอดใจในหัวใจของเขา แต่มีเวลาเสมอที่จะทราบว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ปีศาจ อย่างไรก็ตาม เขายังสงบอยู่ รอยต่อการปรากฎตัวใหม่ของ "นางสาวลึกลับจากสวรรค์"

การปรากฏครั้งที่สี่
วันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 1991

ในวันนั้นในปีค.ศ. 1991 มาร์คอส์กลับมาจากโรงเรียนราวเวลา 10:30 PM, เมื่อเขาเข้าประตูบ้านของตัวเอง เขาตกใจกับ "นางสาวลึกลับ" ที่ปรากฎตัวให้เห็นครั้งนี้ เธอเป็นทั้งหมดในชุดขาว รวมถึงมือและใบหน้า ในแสงสว่างที่ฉายแรง

เขาตกใจและยืนอยู่ไกลๆ ดูนางสาวผู้งามที่ยิ้มนั้น เธอค้างอยู่นั้นประมาณ 5 นาที แล้วหายไปโดยไม่พูดอะไร มาร์คอส์เดินกลับบ้านของเขา พิจารณาถึงสิ่งที่เห็น แต่ใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขจากการได้เห็น "นางสาวผู้มีแสงสว่าง" อีกครั้ง

การปรากฏครั้งที่ห้า
วันที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 1991

ในวันคริสต์มาสอีฟ ขณะที่กำลังถวายพระเพลงอยู่บ้าน Marcos ได้เห็นแม่พรหมจารีย์ปรากฏตัวต่อหน้าตนอีกครั้ง เธอกำชับให้เขาเฉยะเองแก่หัวใจบริสุทธิ์ของมารีโดยการดำรงชีวิตอย่างงดงามและเต็มไปด้วยความเคร่งขรัญ เขาทำตามที่เธากำชับ และถวายตัวตนทั้งหมดให้กับพระเจ้าผ่านหัวใจบริสุทธิ์ของมารี จากบรรดาสิ่งที่ทรงกำชับเขา เราจะเน้นถึงการละเว้นโทรทัศน์ การละเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การละเว้นค่ำคืน การละเว้นเครื่องดื่มสารเสพติด และทุกรูปแบบของความไม่บริสุทธิ์ เป็นต้น

เป็นการยอมรับ "ใช่" ของ Marcos ต่อแผนงานของพระเจ้าอย่างถาวร

เวลาผ่านไป...ทั้ง Marcos และผู้คนที่อยู่รอบข้างเขาที่ทราบเรื่องนั้น ทั้งหมดไม่ได้พูดถึงว่าพระมารีไม่ทรงเปิดเผยพระนามของตนเอง Marcos ไม่มีทางจะแน่ใจว่าเป็นพระมารีย์หรือไม่ เพราะการปรากฏตัวนั้นไม่ทรงกล่าวพระนามของตนเอง เขาหวังว่าพระองค์จะบอกเขาที่โอกาสในอนาคต ข้างหนึ่งแล้ว สำหรับเขานี้เป็นเรื่องยากมากที่จะทำความเข้าใจ เพราะเขาประสบกับสิ่งเหล่านั้นเกี่ยวกับพระเจ้าอย่างไม่ทราบตัว

กลุ่มแรก

กลุ่มการถวายพระเพลงรำวงครั้งแรกก่อตั้งขึ้นในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1991 แม้จะยังไม่ทราบว่าพระนางที่ทรงพูดกับเขาเป็นพระนักบุญมารีย์ แต่เขาก็รับรู้ความเคลื่อนไหวภายในใจอย่างมหาศาลเพื่อการถวายพระเพลง ต่อมา เขาจึงจะทำความเข้าใจถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเอง

กลุ่มคนไม่มากนี้ได้ประชุมกันในวันเสาร์และอาทิตย์ บางครั้งอยู่บ้านหนึ่ง และบางครั้งอยู่บ้านอื่น ๆ ในเวลานั้น Marcos ได้รู้จักถึงพลังมหาศาลและความมีผลของการถวายพระเพลง แต่ก็รับทราบเรื่องทุกข์ยากลำบากและความเข้าใจผิดจากผู้คนที่ไม่ทำความเข้าใจถึงความเร่งด่วนในการถวายพระเพลง เขาพยายามแสดงให้เห็นแก่ทั้งหมดว่า มารีย์เป็นแม่แห่งความรักเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและคุณธรรม สำหรับผู้ที่ได้รับฟังคำพูดและการถวายพระเพลงของเขา กระทู้สวรรค์นั้นมหาศาล และจนถึงปัจจุบันมีคนหลายคนจำเขาอยู่กับรูปลักษณ์เล็กๆ ของพระมารีย์ในมือและรำวงอยู่ด้วย เข้าสู่บ้านทั้งหมด ใช่ มารีย์ได้เข้ามาในบ้านของผู้คนด้วยมือสองข้างและหัวใจที่อยากให้ทุกคนรับรู้ความสงบสุขนั้นซึ่งเขารับรู้ แต่สำหรับผู้ที่ปฏิเสธและไม่ยอมฟัง คำพูดของพระคริสต์จึงมีประโยชน์ว่า "แต่ถ้าเข้าสู่เมืองหนึ่ง และพวกเธอไม่ได้รับท่าน พ่อ ให้ออกไปจากทางหลวงแล้วกล่าวว่า 'แม้จะเป็นฝุ่นที่ติดอยู่กับนครของคุณเราก็สั่นลงมาเพื่อขับไล่คุณ แต่ทราบว่าจักรวรรดิพระเจ้าใกล้เคียงมาที่นี้แล้ว ให้ท่านทราบว่าในวันนั้นจะมีการพิพากษาสอดโซมอย่างเบา" (ลูกา 10:10-12)

แม้อย่างไรก็ตาม เขายังคงเดินหน้ามุ่งไปข้างหน้าโดยไม่กลัว ไม่หดหลับ และไม่ถอยร่น จึงเป็นเหตุให้ในปี ค.ศ. 1991 แม้จะยังไม่ทราบพระนามของนางผู้ลึกลับจากสวรรค์ กลุ่มการถวายพระเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิญญาณบริสุทธิ์ก็เริ่มมีขึ้นแล้วภายใต้ความทอดตาแห่งมารีย์ผู้เป็นพรหมจารี

การเกิดเหตุและคำกล่าวของพระนาง

ในปี ค.ศ. 1992 พระนักบุญมารีย์ทรงสื่อสารกับผู้ที่เธอเลือกใหม่ แต่เพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อเขากลับถึงบ้านหลังจากเรียนในตอนเย็น เธอก็จะรออยู่ให้ เขาได้กล่าวคำวินิจฉัยสุดท้ายของวันนั้นแล้ว เธอก็จะมอบคำพูดเล็กน้อยแก่เขา ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีข้อความที่พระองค์ทรงส่งต่อมาในช่วงเวลานั้น

มาร์คอส อายุ 20 ปี

ปรากฏการณ์ครั้งที่หก
7 พฤษภาคม ค.ศ. 1992

หลังจากไม่มีปรากฏการณ์มาแล้ว 5 เดือน ในเวลาประมาณเย็น ท่านพระแม่ได้ปรากฏตัวและกล่าวว่า:

"ข้ามาเพื่อร้องขอให้ทำคำประกาศด้วยความรัก ความประกาศที่นำผู้ชายไปเข้าใจถึงความรัก..."

ปรากฏการณ์ครั้งที่เจ็ด
13 พฤษภาคม ค.ศ. 1992

ปรากฏในเวลาค่ำ ท่านพระแม่ทรงประกายด้วยแสงสว่างปรากฏตัวและกล่าวว่า:

"นั่งลง (ระงับใจ) ในการทำคำประกาศ ชีวิตอย่างอ่อนน้อม..."

ปรากฏการณ์ครั้งที่แปด
8 มิถุนายน ค.ศ. 1992

ท่านพระแม่ได้ปรากฏตัวต่อมาร์คอส ตาเดว และกล่าวว่า:

"ข้าต้องการให้รักข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้เสนอใจของเธอมายังข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รัก พระเจ้า มากกว่าสิ่งใดทั้งหมด ขอบคุณและรักษาผู้ทำผิดต่อท่านมาตลอด..."

การสนทนาในใจ

ในช่วงเวลานี้ มาร์คอสเริ่มมีไม่เพียงแต่ปรากฏการณ์ แต่ยังได้รับการสนทนาในใจด้วย ในปีนั้น เขาเรียนอยู่ตลอดวันที่โรงเรียน เซไน ที่ซานโฌเซดูส์กัมปุส วันหนึ่ง เมื่อเขาอยู่ในห้องเรียน เขาคิดกับตัวเองว่า "ฉันอยากรู้ว่าปัจจุบันเป็นเวลาเท่าใด" ต่อมา เสียงจากภายในกล่าวแก่เขา:

"สิบสองนาที!"

เขากลับไปด้วยความตกใจ ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ และถามเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ว่า เขาเคยพูดอย่างนั้นหรือไม่ เพื่อนกล่าวว่า เขาผิดพลาด คนใด ๆ ก็ไม่เคยพูดอย่างนั้น ต่อมา เขากำลังจะยกมือขึ้นตอบปัญหาการบ้าน แต่เสียงจากภายในกล่าวแก่เขา:

"ไม่จำเป็น เธอจะไม่เรียกเธอมาด้วย!"

ครั้งนี้ เขาก็ไม่อาจละเว้นได้แล้ว ด้วยความวิตกเขาถาม:

"ท่านคือใครที่พูดกับข้า?"

เสียงกลับว่า:

"เพียงแต่ในตอนนี้จะรู้ว่าสิ่งนั้นมาจาก พระเจ้า ในเวลาที่เหมาะสม ท่านจะทราบได้ว่าข้าคือใคร..."

เพื่อนของเขาเริ่มรู้สึกว่าเขามีพฤติกรรมแปลกๆ และเริ่มสงสัยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น คนหนึ่งในนั้นกลายเป็นคนห่วงใยอย่างมากว่าจะทราบจากมาร์คอสว่าทำไม เขาได้บอกทุกสิ่งให้กับเพื่อนของเขาด้วยความกดดัน จากเหตุการณ์นี้ ในอนาคต เพื่อนของเขาจะเปลี่ยนใจด้วยเรื่องที่เยาวชนคนหนึ่งกล่าวแก่เขา

ในระหว่างเรียนหรือเมื่อกำลังกลับบ้าน เขาก็จะได้ยินเสียงนั้น มันสามารถเก็บรักษาเรื่องเหล่านี้ไว้ดีมาก โดยเฉพาะคำแนะนำให้เขาประกาศขอพระจิตเพื่อการเปลี่ยนใจของเพื่อนๆ ของเขาที่หัวเราะกับเขาเนื่องจากความเชื่อของเขา ใคร่จะเสียงนั้นที่เป็นรูปแบบลึกลับได้บอกให้เขาประกาศขอพระจิต "พ่อทรงศักดิ์สิทธิ์" และ "แม่พระคำสวด" ทุกวันเพื่อการเปลี่ยนใจของเพื่อนๆ ที่กำลังเดินทางไปยังเส้นทางของยา เบ็ดเงิน หรือเรื่องอื่น ๆ เขาประกาศขอพระจิตเหล่านี้ทุกวันตามคำแนะนำ

ต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาที่เพื่อนๆ ของเขาที่ไม่ได้เรียนกับเขาอีกแล้วเนื่องจากสอบไม่นานก็ทราบว่าเพื่อนของพวกเขาคือคนที่เห็นพระแม่มารี พวกเขาจึงไปยังบ้านของมาโคส์ ประกาศขอพระจิตกับเขาและเปลี่ยนชีวิตของตน

ดังนั้น จำเป็นว่าพระเจ้า "พ่อทรงศักดิ์สิทธิ์" และ "แม่พระคำสวด" ที่มาโคส์ประกาศขอพระจิตเพื่อพวกเขาทุกวันตามคำสั่งของเสียงภายในนั้นมีผลต่อการเปลี่ยนใจของพวกเขา ความเชื่อทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้!

แม้จะไม่ระบุตัวตน พระหญิงผู้รุ่งโรจน์ยังคงปรากฏขึ้นหลายครั้งในช่วงปีต่อมา และอย่างไรก็ตาม เธอทำให้ความกลัวของมารโกสลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้าแสงกษัตริย์ของเธอนั้นทำให้น่าหวาดหวั่น มากกว่านี้ ความเมตตาของเธอก็จับใจเขาได้ และด้วยเหตุผลนี้ จึงมีการสนทนาเพิ่มขึ้นระหว่างพระแม่แห่งฟ้าและเด็กชายยากจนจากฆาซารี

ปรากฏกาลครั้งที่เก้า
9 มิถุนายน 1992

พระหญิงปรากฏในเวลานัดค่ำ เมื่อมาโคส์กำลังประกาศขอพระจิตเพื่อให้หลับให้นอน ในบ้านของเขา เธอก็พูดกับเขาว่า

"ทรงรับหัวใจของฉันมากขึ้น... บอกเด็กๆ ของฉันให้ประกาศขอพระจิตด้วยความรักและความเชื่อ ไม่ต้องสูญเสียหวังใน พระเจ้า!"...

ปรากฏกาลครั้งที่สิบ
10 มิถุนายน 1992

พระหญิงปรากฏกับมาโคส์ เมื่อเขาประกาศขอพระจิตในบ้านของตน และเธอก็พูดกับเขาว่า

"มองหัวใจของฉันที่ล้อมรอบด้วยหนามและความเจ็บปวด.... ฉันรับทุกสิ่งที่ทำให้คุณเจ็บปวดในหัวใจของฉัน ฉันเสนอพวกเขาแก่พระเจ้าที่อยู่ในหัวใจของฉัน..."

ปรากฏกาลครั้งที่สิบเอ็ด
11 มิถุนายน 1992

วันถัดมา ในเวลานัดค่ำ พระแม่มารีปรากฏกับเขาอีกครั้งด้วยสร้อยพระเพลงแห่งแสงในมือของเธอ รัศมีที่เข้มข้นกว่าคราวอื่น ๆ และพูดกับเขาว่า

"ต่อไปประกาศขอพระจิตด้วยสร้อยพระเพลงแห่งนักบุญ.... เป็นการประกาศขอพระจิตที่ฉันชอบมากสุด คือลูกโซ่ที่จะผูกรัดศัตรูและทำให้น้ำหน้าของโลกทั้งหมดเป็นใหม่..."

แล้วเธอก็หายสาบสูญไป

ปรากฏกาลครั้งที่สิบสอง
17 มิถุนายน 1992

ปรากฏในเวลานัดค่ำ พระแม่มารีชี้ด้วยมือของเธอไปทางวังแห่งพระนางพรหมจรรย์ที่เป็นสถานที่แรกที่เธอปรากฏกับมาโคส์ แล้วก็พูดกับเขาว่า

"ฉันขอให้ทุกคนรักกันไปด้วยกัน ไปยังโต๊ะแห่งพระศารีริการเพื่อรับอาหารนิรันดร์!"...

สิบสามครั้งที่ปรากฏตัว
มิถุนายน 29, 1992

การปรากฏตัวในตอนกลางคืน นางพระแม่ทรงเอามาลาฮีลาที่ส่องประกายและพูดว่า:

"รองจันทร์ต้องมีความเสียใจเป็นที่สุด! ต้องให้เกิดการขอโทษในหัวใจ..."

สิบสี่ครั้งที่ปรากฏตัว
พระเยซูปรากฏตัวในรูปของคนยากจน

การปรากฏตัวนี้เกิดขึ้นวันเสาร์เดือนตุลาคม 1992 แต่มาร์คอสไม่ทราบวันที่แน่นอน หลังจากที่ผ่านไปแล้วสี่เดือนโดยไม่มีการปรากฏตัว

หลังออกบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ มาร์คอสเริ่มเดินลงถนน เมื่อได้เดินไปประมาณ 150 เมตร เขาเห็นรูปแบบที่น่าสงสัยอยู่ข้างทางกับหัวโหน่งลงมา ความรู้สึกแปลกๆ กำเนิดขึ้นในเขา และแม้ว่าเขาจะอยากไม่หยุดและเดินต่อไป แต่กำลังแห่งความแปลกประหลาดทำให้เขาหยุดและบอกให้เขารอ

คนต่างประเทศยกหน้าขึ้นมาซึ่งดูตรงๆ เขา มีสายตามีที่เป็นสีน้ำเงินเข้มใบหน้าของเขาสันติ แต่แสดงความทุกข์อย่างมหาศาล เสื้อผ้าของเขาคือเสื้อยาวจากหัวถึงเท้า ทำจากผ้าประเภทรวมๆ ไม่มีการต่อถัก หรือเพิ่มเติมใดๆ อีก เขามีลักษณะเป็นคนยากจน เลื่อมและอดอยาก

ผู้ชายที่รู้ไม่แน่ใจคงจะสังเกตเห็น มาร์คอสด้วยความตั้งใจอย่างหนักหน่วง จนเขารู้สึกขาเบี้ยวลงมาและโคนไปกับเขา

มาร์คอสดูรอบๆ เพื่อตรวจสอบว่าใครในบริเวณนั้นเห็นผู้ชายนี้ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ คือ พี่ชายของเพื่อนร่วมห้องเรียนหนึ่งผ่านไปด้านหน้าของคนต่างประเทศและไม่เห็นหรือสังเกตเจอใคร

ผู้ชายนั้นยังคงดูตรงๆ เขา จนกระทั่งเขายื่นมือออกมาเหมือนจะขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มาร์คอสแข็งตัวจากความกลัว เมื่อต่อไป ผู้ต่างประเทศนั้นเริ่มตั้งขึ้น

มาร์คอสปิดตาเพราะกลัว และเมื่อเขาปรับเปลี่ยนให้เห็นอีกครั้ง เขาก็ไม่สามารถเห็นผู้ชายที่แปลกประหลาดนั้นได้อีก ซึ่งเคยอยู่ตรงนี้ไม่นานมา

ต่อไปรถหนึ่งผ่านและบี๊ป มาร์คอสซึ่งกลัวจนเกือบทะลุใจ พบว่าตนเองกำลังเดินลงถนนที่เขาเคยเดินมาจนเห็นผู้ต่างประเทศนั้น

หลายปีต่อมา มาร์คอสถามนางพระแม่ว่า ผู้คนไม่รู้จักนี้เป็นใคร นางพระแม่ทรงตอบเขาว่า:

"ผู้นั้น คือ พระบุตรของข้าพเจ้า พระเยซูไคริสต์ ที่ปรากฏตัวต่อหน้านี้ในรูปแบบคนยากจน เพื่อให้ทุกคนจะเข้าใจว่า เมื่อมีคนยากจนมาประตูกำแพงบ้านของพวกเรา พวกเราต้องไม่ดูถือหรือปฏิเสธอาหารแก่เขา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรและยากจนเพียงใด ทุกสิ่งที่ทำกับคนยากจน ในความจริงแล้ว ก็คือนำไปสู่พระเยซู..."

นี้คือบทเรียนอันเป็นมรณกรรมของการมีทรัพย์สมบัติที่พระเยซูและนางพระแม่ได้ให้กับ มาร์คอส และแก่ผู้คนทั้งหมดที่เดินทางมายังจาคาเร่ อี เพื่อหาที่เปลี่ยนใจ เปลี่ยนความรู้สึก

ขอพระราชทานให้เจ้าหญิงและผู้เผยแพร่แห่งสงบสุขได้รับการมีจิตใจเต็มไปด้วยความเมตตามิตรแก่เพื่อนบ้านของเรา อามิน.

สิบห้าครั้งที่ปรากฏตัว
กุมภาพันธ์ 19, 1993

หลังจากไม่มีการปรากฏตัวมาแล้ว 4 เดือน มาร์คอส ทาเดียส กำลังกับเพื่อนๆ ในการทำนายขอบฟ้า เมื่ออยู่กลางในการทำนาย ข้าหญิงผู้เยาว์มาจากสวรรค์ปรากฏให้เขาดู

มาร์คอสเรียกร้องสามครั้งที่ข้าหญิงผู้เยาว์จะบอกชื่อของนาง นางยิ้มนำตอบไม่มีใดๆ

ในครั้งที่สี่ เขาเรียกร้องอย่างแรงกล้า ต่อมา นางเปิดข้างมือ ยิ้มหรือว่า

"ผมคือ พระนางแห่งสงบสุข!... ผม คือ พระมารดาของเยซู!..."

ต่อมา นางเพิ่มว่า

"ลูกๆ ของผม ผมต้องการให้ได้รับสงบสุขของผม!.... ทำคุณธรรม! ทำคุณธรรม! ขอโทษสักกะแก่ผู้มีความผิด...

ทำคุณธรรมด้วยหัวใจ! เปิดตัวให้ พระเจ้า และ ความรัก ของพระองค์! อยู่ในสุขและสงบสุขจะเต็มไปด้วยชีวิตของพวกเธอ...

ปลูกสงบสุขภายในตัวเอง และแพร่สัญญาณนี้ให้กับผู้อื่น... ผมรักทุกคนและผมต้องการจะให้สงบสุขจากฟ้าแก่พวกเธอ...

ผมประทานพระคุณแก่พวกเธอ..."

และนางหายไป

มาร์คอสเข้าใจอย่างสมบูรณ์แล้ว: ข้าหญิงผู้ลึกลับนั้น คือ พระนางแห่งสงบสุข พระมารดาของ พระเจ้า!

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความรื่นรมย์!

วันเดียวกันนั้น ราว 9:30 น. นางกลับมาเมื่อมาร์คอสกำลังทำนายพระธรรมจักรกำกับในบ้านของเขา และแนะนำให้ทำคุณธรรมด้วยสงบสุขและความรัก นางยังประกาศว่าจะกลับมาใหม่ภายในหนึ่งสัปดาห์เพื่อพูดกับเขาอีก

ปรากฏการณ์ของดอกไม้

วันเสาร์ถัดไป 27 กุมภาพันธ์ พระนางกลับมาและบอกผู้ที่ได้รับเลือกว่า

"ทำคุณธรรมและอยู่ในสงบสุขด้วยหัวใจของพวกเธอ ปลูกมันลงในหัวใจ และอยู่กับความรัก เมื่อท่านรู้สึกว่าทำไม่ได้ ทำนาย ขอแสงแห่งพระจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อ่านพระธรรมจักรกับทั้งหมดจะชัดเจนขึ้น"

มาร์คอสถามว่านางจะกลับมาใหม่ นางตอบด้วยการเคลื่อนไหวของหัวใจ โดยยกหน้าผากแล้ว เธอก็ขอให้เขาบอกผู้คนว่าเธอมาปรากฏตัวและสิ่งที่เธอยังคงเรียกร้อง มาร์คอสแสดงความกลัวว่าความเห็นของประชาชนจะเป็นอย่างไร พระนางจึงพูดกับเขาว่า

"ลูกๆ ของผม ในเจ็ดวันนี้ไปที่ต้นกุหลาบในบ้านของเธอ และท่านจะเห็นปรากฏการณ์: มันจะเต็มไปด้วยดอกไม้และสิ่งนั้นจะเป็นสัญญาณให้ท่านเชื่อใจผมและไม่ต้องกลัวใครๆ!"

มาร์คอสทำตามที่เธอกำหนดให้เขา เขาประกอบพิธีและเชื่อใจตลอดทั้งสัปดาห์ ในวันศุกร์ ราว 11:00 น. เขากลับบ้านจากโรงเรียน และเห็นต้นไม้พุ่มรอซที่ไม่มีดอกรอซเนื่องจากฝนหนักที่กำลังตกอยู่ แต่เขาเชื่อใจ ไปเข้าบ้านของเขาและเริ่มประกอบพิธี วันถัดไป 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 รุ่งสาง เขาก็วิ่งไปยังต้นไม้พุ่มรอซ และเห็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ: ดอกรอซงดงามแขวนอยู่อย่างสงบสุขจากกิ่งของมัน!

เขาเรียกร้องให้แม่มาเห็นสัญลักษณ์ แม่ของเขานั่งชม แต่ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย แต่เธอคิดว่าสิ่งนี้น่าประหลาดใจ เพราะเธอกำหนดที่จะทำการชุ่มต้นไม้พุ่มรอซทุกวัน และสังเกตเห็นว่าเมื่อวานนั้นไม่มีดอกไม้อยู่เลย ทำไมจึงเกิดขึ้นได้ว่าดอกรอซหลายๆ ดอกสามารถงอกออกมาในเวลาหนึ่งคืนอย่างเร็วมากและกับฝนหนักวันก่อน?

สิ่งนี้ชัดเจน นี่เป็นสัญลักษณ์ของพระแม่มารีย์!

มาร์คอสบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับญาติและเพื่อนบ้าน เขาไม่ได้รับความเชื่อถือจากพวกเขามากนัก บางคนเริ่มเข้ามาประชุมกันและถามเขาที่จริงๆ เกิดอะไรกับเขา

การโต้เถียงใหญ่เกิดขึ้นทั่วหมู่บ้านและเมือง คนหนึ่งพูดร้ายคนอื่นก็สนับสนุน

พระแม่มารีย์เริ่มงานมหาศาลของพระองค์เพื่อทรงช่วยเหลือเด็กๆ ของพระองค์

ในวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1993 พระองค์ปรากฏตัวอีกครั้ง และกล่าวว่า:

"โอรสของฉัน จากวันนี้ไป ฉันจะมาทุกวัน ตลอดเวลาเดียวกัน (6:30 น.) อยู่ในการประกอบพิธีในช่วงเวลานี้...

เขียนลงในหนังสือเล่มนี้ทุกรายละเอียดที่ฉันแสดงให้เห็นกับคุณ รู้ว่าหัวใจของฉันเลือกคุณ เลือกคุณเป็นผู้นำเสียงของฉัน ไม่ต้องกลัวจะประกาศข้อร้องขอของฉัน

อย่าประมาทที่ถูกเลื่อยเลือก แต่... อยู่ในสภาพความเป็นห่วงและมีศรัทธาตลอดไป..."

มาร์คอสถาม:

"พระแม่ของฉัน ทำไมจึงเลือกฉันที่ไม่มีทรัพย์สิน ไร้สิ่งใดพิเศษ และไม่ดีกว่าคนอื่น?"

พระองค์ตอบ:

"โอรสของฉัน ฉันเลือกคุณเพราะคุณเป็นคนไร้สิ่งใด... คุณยังไม่เข้าใจว่า ฉันเลือกความอ่อนแอกของคุณมาเผชิญกับกำลัง และความว่างเปล่าของคุณมาทำให้ผู้หึงหนอง?"

พระแม่มารีย์สาบสูนและการเดินทางมหาศาลของปรากฏตัวประจำวันของพระแม่มารีเริ่มต้นขึ้นกับมาร์คอส

ภาพนี้ของใบหน้าของพระแม่มารีย์ พระราชินีนาถและผู้นำเสียงแห่งสงบสุข ได้ปรากฏอย่างลึกลับเมื่อเครื่องถ่ายรูปของเด็กสาวที่อยู่ในการปรากฏตัวในจาแกเรอี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 ปรับเปิดและย้อนหลังเองในกระเป๋าของเธอ ในวันนั้น พระแม่มารีย์ทรงให้สักการะแก่ผู้เห็นภาพ มาร์คอส ทาเดวส์ ขณะที่น้ำตาหลั่งจากพระเนตรของพระองค์ พระแม่นี้ กล่าวว่า นี่เป็นใบหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ของฉัน ที่ให้กับเราเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักแม่ของฉันต่อทุกคนในหมู่เรา

คำพูดของพระแม่

(18/6/94 และ 7/7/1994) "การปรากฏตัวที่ฟาติมาเป็นจุดเริ่มต้น...และสถานที่นี้คือจุดสิ้นสุดของข้อความจากฟาติมา..."

(24/2/2000) "ที่นี่ในชาการายี หัวใจบริสุทธิ์แห่งฉันแม้จะถูกต่อสู้และประหาร (หยุดพัก) โดยทุกคน ก็จะได้รับชัยชนะ!!!... และพระกรุณาของพระเจ้า ผู้ที่ส่งผมมา 'ที่นี่' ที่เต็มไปด้วยอันตรายและข้อความ เพื่อให้กับลูกของฉัน จะปรากฏแก่โลกทั้งหมด (หยุดพัก) แล้วจึงมีคนหลายคนจากตะวันออกและตะวันตก มาเยือนที่นี่ ไปยังเท้าของแม่ผู้เรียกร้องให้ทุกคนเข้าสู่ 'อุโมงค์ปลอดภัย' (หยุดพัก) ของหัวใจบริสุทธิ์แห่งฉัน..."

(11/7/1999) "หลังจากที่พระบุตรของผมเยซูปรากฏตัวในโลกแล้ว การปรากฏตัวของผมที่นี่ชาการายีคือ อันดับสูงสุด ของพระเจ้า ที่ทรงประทานให้กับมนุษยชาติ..."

(11/6/2000) "การปรากฏตัวของผมที่นี่ชาการายีคือ 'กระดูกสุดท้าย' ที่พระเจ้าเสนอให้ ไม่เพียงแต่กับบราซิล แต่... กับโลกทั้งหมด... ถ้าคุณปฏิเสธพวกเขา คุณจะปฏิเสธการได้รับความรอดของตัวคุณเอง..."

(13/6/2000) "ชาการายีจะเป็น 'จุดศูนย์กลาง' ที่จะดึงดูดจิตวิญญาณที่มีความประสงค์ดีทั้งหมด มาเยือน 'ที่นี่' เพื่อสรรเสริญและอวยพร พระเจ้า และเพื่อยกย่องหัวใจบริสุทธิ์แห่งฉัน..."

(12/3/2000) "ลูกของผม ให้ทำตามข้อความที่ผมได้ส่งมาให้คุณที่นี่ชาการายี... การปรากฏตัว 'ที่นี่' คือการเรียกครั้งสุดท้ายของพระเจ้า ไม่เพียงแต่กับบราซิล แต่... กับโลกทั้งหมด... ให้ทำตามข้อความของผม และปฏิบัติตามคำขอของฉันทั้งหมด... ฉันต้องการที่จะถูกเรียกร้องและรักเป็นราชินีและสารทูตรองค์แห่งสงบสุข... ในไม่ช้าโลกจะได้รับรู้ถึงความประทานทั้งหลายจากชื่อของผม..." (25/2/2000)

พระเยซูคริสต์ในวันที่ 3/7/1998: "การยืนยันและต่อเนื่องจากการาบานดัล..."

สิ่งแวดล้อม

ปรากฏตัวของพระแม่เริ่มต้นในรูปแบบของการสื่อสารภายในใจ ในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ผู้เห็นเพียงได้ฟังเสียงของพระแม่เท่านั้น

ตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 1993 พระแม่ก็ปรากฏตัวในรูปแบบสามมิติด้วย

ผู้เห็นรายงานว่า "ฉันสามารถสัมผัสพระแม่ได้ ฉันสามารถจูบเธอและพรรณนาถึงเธอกับการถวายคำร้องขอบคุณ และถามความประสงค์ของเธอ เมื่อฉันสัมผัสเธอ ฉันรู้สึกกระแสหวานไหลผ่านตัวและจิตวิญญาณของฉัน" ขณะที่มาร์ก็สเห็นพระแม่ เขาอยู่ในภาวะความสุข

ต้นแรก พระนางมารดาปรากฏตัวในบ้านเรือน ในชาปเพล และในโบสถ์ ตามพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ แล้วเธอก็เริ่มปรากฏตัวที่ภูเขาที่อยู่ใกล้กับบ้านผู้เห็นภาพ พระนางมารดา ผู้รุ่งโรจน์ด้วยความดีและสวยงาม มาประกาศข้อคำแนะนำของพระเจ้าเป็นพ่อแม่ และทำให้เราสำนึกถึงอันตรายของเธอกับเราทุกวัน

ครั้งหนึ่ง พระนางมารดาได้ร้องเพลงสรรเสริญว่า "เกียรติแก่พระคริสต์เจซัส ในศักราชที่ถูกทรงอัญเชิญ เกียรติแก่เยซู ที่ชื่อเหนือกว่าชื่อใดๆ" เธอบรรเลงเพลงจากสวรรค์ มารยาที่ปรากฏตัวในวัดขณะเคาะพระเจ้า เพื่อสอนลูกของเธอให้เก็บไว้และรักแท้จริงกับพระเจ้าผู้ถูกรับศีล

วันหนึ่ง เธอก็ปรากฏตัวโดยโบกมือทำเคารพแก่ผู้เห็นภาพ และคนที่กำลังสวดมนต์อยู่ที่ภูเขาแห่งการปรากฏพระองค์ มาร์คอส์ตอบกลับด้วยการโบกมือให้เธอก็ตาม เธอยิ้มหยิกเมื่อรู้สึกสุข บางครั้งดูจริงจัง และบางครั้งดูเศร้า พระนางว่ากันว่า "ฉันมาในนามพระเจ้า เพื่อเตือนมนุษย์ให้ทราบถึงความผิดพลาดของพวกเขาและเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงใจ" บางครั้งเมื่อมาถึง เธอก็สวัสดิการด้วย "ขอประทานเกียรติแก่พระเยซูคริสต์ผู้เป็นเจ้า" คราวอื่นก็บอกว่า "เกียรติแก่วันและสงบสุขให้โลกนี้"

ภูเขาแห่งการปรากฏพระองค์

ความถี่ของการปรากฏตัว

การปรากฏตัวครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ที่ Matriz da Imaculada Conceição ใน Jacareí สิบสองวันต่อมา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ผู้เห็นภาพวัยรุ่น มาร์คอส์ ตาเดว์ อายุ 14 ปี ได้รับการปรากฏตัวของมารีย์ครั้งที่สอง ไม่มีการแสดงออกใหม่ในระยะเวลานั้น และไม่ได้เปิดเผยให้ใครทราบว่าพรหมจารีมาปรากฏตัว ใน ค.ศ. 1992 มีข้อความทั้งสิ้นหนึ่งเรื่องในเดือนพฤษภาคมและหกเรื่องในเดือนมิถุนายน

เสียงของพระมารดาเงียบลงตั้งแต่กรกฎาคม ค.ศ. 1992 จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 เมื่อพรหมจารีเปิดเผยชื่อและเริ่มภารกิจที่ดีขึ้นมา พระมารดาที่มีความรักได้ปรากฏตัวทุกวันตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1993 มานี้ คนๆ ที่กลัวว่าพระนางจะปรากฏตัวบ่อยเกินไป แม่ผู้เป็นที่รักอธิบายว่า "การปรากฏนี้คือครั้งสุดท้ายสำหรับมนุษย์ ไม่นั้นแต่ที่นี่ แต่ในหลายๆ ที่ทั่วโลก ฉันให้เครื่องหมายของฉันเพื่อกลับไปยังพระบิดาของพวกเธอไม่ช้าแล้ว ทุกความลับจะสำเร็จ และต่อมา ความเข้มแข็งของศัตรูของฉันจะถูกเอาชนะ"

และพระนางเริ่มฝึกผู้เห็นภาพเป็นทูตของเธอแล้ว:

"เขียนทั้งหมดลงในหนังสือเล็กๆ ที่ฉันแสดงให้คุณรู้และทำให้คุณรู้สึก ไม่เอาใจตัวเองว่าเป็นทูตของฉัน แต่อย่าประมาท เพราะความกรุณาของพระเจ้าอันบริสุทธิ์ที่เธอได้รับนี้ คุยกับข้าพเจ้าเพิ่มขึ้น และให้หัวใจแก่ข้าพเจ้า มากขึ้นไปเรื่อยๆ หัวใจของคุณต้องเป็นของฉันทั้งหมด ฉันรักคุณ นางฟ้าแห่งฉัน"

"ลูกของฉัน ฉันเชิญให้คุณเปลี่ยนใจ ความศรัทธา และมองข้าพเจ้าที่ลาแซแล็ตต์วันนี้ น้ำตาของความเจ็บปวดและความรักที่ข้าพเจ้าร้องไห้อยู่ที่นั้น ต้องเป็นเหตุผลให้คุณเปลี่ยนใจ เพราะเพื่อท่านทั้งหลายที่ข้าพเจ้าร้องไหน ใส่ใจด้วย ความศรัทธา ความศรัทธา ความศรัทธา เปลี่ยนใจกันเลย! ใส่ใจและสิ่งของจะชัดเจนขึ้น ทำให้การเปลี่ยนใจเร็วขึ้น เพราะความลับแห่งลาแซแล็ตต์ของข้าพเจ้ากำลังจะเกิดขึ้น และคนมากมีโอกาสที่จะหลงผิดกับสิ่งที่กำลังมา"

ในช่วงต้น มารดาแห่งพระเจ้าได้ร้องออกเสียงด้วยความแรงว่า:

"ใส่ใจกัน! ใส่ใจกัน! ใส่ใจกัน! ใส่ใจด้วยหัวใจของคุณทั้งหลาย! ตั้งใจให้เป็นอย่างเดียวกับการใส่ใจ! ถวายหัวใจแก่พระเจ้า! ถวายหัวใจแก่พระเจ้าที่สุดท้าย! เปลี่ยนใจกันเลย! เปลี่ยนใจกัน!"

"โอ้ ลูกๆ ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้านั้นเห็นแล้วว่าข้าพเจ้ากำลังอ่อนแรงจากการเรียกร้องให้มนุษย์เปลี่ยนใจ: ฉันไม่สามารถทนต่อไปได้ anymore. ข้าพเจ้าเชิญคุณทั้งหลายมาเยือนพระบิดาทุกวัน แต่คุณไม่สนใจ คุณ ลูกๆ ของข้าพเจ้ามองหาคำแนะนำนี้ว่าเป็นสิ่งที่ไร้อยู่มากครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าข้าพเจ้าอ่อนแรงจากการเตือนคุณทั้งหลาย ท่านกำลังสงสัยในใจของท่านอย่างไรก็ได้ว่าฉันสามารถพูดสิ่งนี้ผ่านปากคนอื่นๆ ได้หรือไม่ ไม่ ลูกๆ ของข้า ฉันไม่ทำอะไรโดยปราศจากเหตุผล; สิ่งที่ฉันกล่าวมาจากหัวใจของฉันด้วยความรัก"

"ลูก ๆ ที่เป็นที่รัก ข้าพเจ้ารู้สึกสุขอย่างยิ่งเมื่ออยู่กับคุณทั้งหลาย ฉันเห็นการทุกข์ทางใจของคุณมากมาย ฉันเห็นความทุกข์ในเส้นทางของคุณ และฉันเห็นกางเขนของแต่ละคน คำสอนอีกครั้งหนึ่งว่า ข้าพเจ้าเป็นพระมารดาของทั้งหลาย ฉันอยู่กับคุณ แต่คุณไม่รู้สึกถึงข้าพเจ้าซะหรือ ฉันเป็นพระมารดาของท่าน! เมื่อข้าพเจ้านั่งที่ฐานกางเขนของบุตรชายของข้า บนยอดเขาคัลวารี พระบุตรของข้าพเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้า 'ดูสิ นี่คือพระโอรสของท่าน' และฉันกล่าวแก่โจน 'โอรส นี้คือแม่ของเธอ' โอ้ ลูก ๆ ของข้า ข้าพเจ้านั้นได้เป็นมารดาที่แท้จริงของทั้งหลาย... ฉันมาจากฟากฟ้าด้วยความรัก ฉันบอกกับท่านว่า คำสอนและการปรากฏตัวของข้าพเจ้าอยู่ในหมู่นี้ เป็นพระกรุณาใหญ่มาก ถวายตนเองให้แก่ข้าพเจ้าโดยใช้สิ่งที่มีทั้งหลายนั้น ฉันจะพาท่านไปหาผู้คริสต์"

ความงามอัศจรรย์ของพระมารดาแห่งพระเจ้า

พระนางมาเรียปรากฏตัวเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความงามและอยู่ในวัยประมาณ 18 ปี เสียงของเธอกลับเห็นได้อย่างหวานชื่น และสอดคล้องกัน เธอมีดวงตาสีฟ้า ผมหยักยาว ส่วนบนตรงส่วนใต้เล็กน้อยเป็นโค้ง เธอมักจะ mặcเสื้อผ้าน้ำเงินที่มีรูปแบบหรือแสงสีน้ำเงินอย่างอ่อนชา และมันถูกทำจากผ้าไหมขาวที่คลุมศีรษะของเธอกลับไปถึงเท้าของเธอ เธอมียอดสูงประมาณ 1.65 เมตร (5.4 ฟุต) บนหัวของเธอยังมีมงกุฎจากดวงดาวที่ส่องแสงจำนวน 12 ดวง และเท้าของเธอยืนอยู่บนเมฆที่ไม่ได้สัมผัสพื้นดิน

ผู้เดินทางหนึ่งถ่ายภาพของรูปพระมารดาแห่งพระเจ้าในช่วงปรากฏตัวที่จาคาเรย์ และด้วยวิธีนี้อย่างลึกลับ รูปนี้ได้ปรากฏขึ้น

พระเยซูคริสต์ก็ปรากฏตัวเช่นกัน

ในจาแคเรอี การปรากฏกายยังรวมถึงพระเจ้าเยซูด้วย พระองค์มีลักษณะเป็นผู้ชายวัย 30 ปี ตาสีน้ำเงิน มีหนวดเล็กๆ ส่วนสูงประมาณ 1.80 เมตร (6 ฟุต) พระองค์สวมเสื้อคลุมสีขาวที่ผูกด้วยเข็มนำสีทอง เสียงของพระองค์นุ่มนวลและสงบ ทรงปรากฏให้เห็นความรักและสุขภาพอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์พูดด้วยอำนาจและประสิทธิผล บางครั้งพระเจ้าเยซูปรากฏในรูปของเด็กชายวัย 7 ปี และบางครั้งเป็นทารกใหม่ ในแขนของพระมารดาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ พระองค์มาในวันที่ 7 ของเดือนและวันพฤหัสบดีเพื่อส่งข้อความร่วมกับพระนาง

เทวดาและบุคคลศักดิ์สิทธิ์บ้างก็ปรากฏตัวด้วย เช่น เทวดาสันติภาพ อาร์ชแองเจิลไมเคิล แอนเจลเกเบรียล แอนเจลรัฟาอีล เซนต์แบร์นาเดตต์ เซนต์บาเบอร่า เซนต์ริต้าแห่งคัสเซีย เซนต์บริจิตแห่งสวีเดน เซนต์โยเซฟ เซนต์เฟาสทีนาคาวัลสก้า เด็กผู้เลี้ยงแม่พระแห่งฟาติมาฮ์ ฟรานซิสโกและชินตา มาร์โท และเทวดารักษาของมาร์คอส ทาดเดียส

น้ำตาของพระมารดาที่บริสุทธิ์ที่สุด

ในระหว่างการปรากฏกายหลายครั้ง พระนางมีรูปแบบของผู้เย็นชาเพื่อความผิดพลาดและบาปแห่งโลก หลังจากนั้นพระมารดาที่บริสุทธิ์ที่สุดทรงแสดงให้เห็นความเจ็บปวดด้วยการไหว้สักการะ 4 รูปภาพในจาแคเรอี ซึ่งเป็นสิ่งที่พระนางประสงค์จะแสดงถึงความเศร้าโศกจากบาปและความผิดพลาดของโลกอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำตาของวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1996 ที่มีผู้คนหลายหมื่นคนเห็นในจาแคเรอี พระนางยังไหว้สักการะในโอกาสอื่นๆ อีกด้วย รูปภาพของพระเจ้าเยซูก็ได้ไหว้สักการะ 2 ครั้งในปี ค.ศ. 1994 ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงเห็นและรู้ชื้อความน้ำตาที่มีรสชาติเป็นเกลือเช่นเดียวกับของมนุษย์ พระนางอธิบายเหตุผลของการไหว้สักการะว่า "เด็กๆ ของฉัน ในหลากหลายแห่งทั่วโลก ฉันให้เครื่องหมายด้วยน้ำตาของฉัน... ผ่านรูปภาพของฉัน ฉันแสดงความขี้เกียจและบาปของคุณ น้ำตาที่ไหลจากดวงตามีทั้งของพระเยซู... โลกกำลังถูกทำลายโดยการแท้งเด็ก การหย่าร้าง ยาเสพติด และความผิดพลาดส่วนบุคคล สังคมและชุมชน... ฉันเห็นว่าคุณอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมแล้วจึงร้องไห้ออกมาให้เปลี่ยนใจ... (เริ่มไหว้สักการะ...) คุณไม่ได้ใคร่ความกับน้ำตาของฉัน ซึ่งเป็นความเศร้าโศกและ 'หลักฐานของรัก' สำหรับคุณ... เปลี่ยนชีวิตของคุณไป... ฉันจะยังไหว้สักการะอย่างมากเพื่อโลกที่ไม่เชื่อถือจนกระทั่งเวลาแห่ง ความเป็นใหญ่ ของดวงตาของฉันที่บริสุทธิ์ถึงมา เมื่อเวลานั้น น้ำตาจะหายไป เพราะศัตรูของฉันจะพ่ายแพ้ และฉันจะจับกุมเขาในนรกอีกครั้งหนึ่ง ที่เขาทำให้ไม่สามารถทำความเสียหายได้ต่อโลก อย่าลืมกับน้ำตาของฉันที

รูปประติมากรรมฟาติมาฮ์ไหว้สักการะ

เครื่องหมายที่ไม่ธรรมดา

เมฆใหญ่สว่างที่เห็นได้เหนือเขาแห่งปรากฏการณ์ราวเวลา 6:30 น. ซึ่งเป็นเวลาของปรากฏการณ์นั้น เมฆมีแสงสว่างมากๆ ออกมาเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์กำลังขึ้นที่นั่น เมฆในรูปทรงของเทวดา สันตะสมาคม หรือพระแม่อยู่หัวปรากฏตัวอย่างกะทัดรัดเหนือเขานั้น เปลวไฟและแสงสว่างระงับปรากฏขึ้นบนเขา และเมื่อคนมาถึงที่นั้น ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ดวงดาวที่เคลื่อนไปในช้วนภาคี ปรากฎเป็นหัวใจขยี้และวาดภาพของสัญญาณเล็กใหญ่เหนือเขานั้นในคืน

ดวงอาทิตย์หมุนหลายร้อยครั้งเหนือฝูงชนจำนวนถึง 60,000 คนที่อยู่ตรงนั้น เปลี่ยนสีและโปรยแสงสีต่างๆ ทุกทิศทาง ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1993 แสงของดวงอาทิตย์เลือนลงทำให้มันกลายเป็นจานขาวที่มีรอยหิมะแล้วก็เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงินและแดง และตกลงมาเหนือโลกเช่นว่าจะชนกับพื้นดินอีกครั้ง ในวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 1994 เปรียบเทียมนี้เกิดขึ้นใหม่ในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1994 จันทราเริ่มเคลื่อนที่ไปทางขวาซ้ายแล้วก็ตกลงมาเหนือโลก ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1993 จันทรากำลังปรากฏตัวในรูปทรงใหญ่มากและชนลงกับคนบนเขา ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1997 ดวงดาวเริ่ม 'ฝน' ลงจากฟ้าเหนือเขาประกาศการณ์เต็มไปด้วยสีและร่องแสงสว่าง

น้ำมันหอมสามครั้งออกมาจากผนังของแท่นบูชาของโบสถ์เล็กแห่งปรากฏการณ์ในบ้านของผู้เห็นภาพ Marcos Tadeu ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 เมฆใหญ่สว่างหนึ่งล้อมรอบผู้เห็นภาพ Marcos Tadeu ซึ่งได้รับการมองเห็นและถ่ายภาพลงมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 กองทัพของหมื่นๆ หมื่นๆ ต่อหลายชั่วโมง และยังคงกระจ่างไฟเช่นว่าคำเรียกคนขึ้นไปบนเขาประกาศการณ์

ทั้งฝนและตะวันแดงได้ประกาศล่วงหน้าหนึ่งเดือนโดยพระแม่อยู่หัว คนหลายๆ ครั้งรู้สึกกลิ่นของดอกไม้และธูป (เช่นเดียวกับธูปที่เผาในโบสถ์) ที่อยู่ในส่วนต่าง ๆ ของฝูงชน... แสงแดงลึกลับเห็นได้กระจ่างไปในเมฆ และเปลี่ยนสีและเคลื่อนไหวของจันทราและเมฆกับแสงที่ปกคลุมผู้เห็นภาพ Marcos Tadeu ในเวลาแห่งปรากฏการณ์

ส่วนใหญ่ของคนเดินทางไปยัง Jacareí กล่าวว่าพวกเขามองเห็นสัญลักษณ์บนดวงอาทิตย์ จันทรา และดวงดารา ในช่วงแรก เสียงเพลงแห่งฟ้าได้ถูกฟังระหว่างการเผยพระคุณในภูมิประเทศและพระแม่อยู่หัวกล่าวว่าเป็นเทวทูตศักดิ์สิทธิ์... ดวงดาราจะปุ่งออกไปในเปลวไฟและตกลงบนเขา และสาบสูญก่อนที่จะชนกับพื้นดิน คนหลายคนกล่าวว่าพวกเขามองเห็นพระแม่อยู่หัวปรากฏตัวในตาของ Marcos หลายครั้งระหว่างการปรากฏตัว วัฒน์ของผู้เห็นภาพ Marcos Thaddeus เปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปลักษณ์แห่งฟ้าเมื่อเขาพูดคุยกับพระเจ้าและพระแม่อยู่หัว ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1994 ระหว่างการปรากฏตัว ผู้เห็นภาพ Marcos Thaddeus วางมือขวาของเขาเหนือเปลวไฟของเทียนที่เขารับอยู่ในมืออีกด้านหนึ่ง และแม้ว่าเพลิงจะเลียบไปยังมือของเขาหลายนาที แต่ก็ไม่ทำให้เกิดแผลใดๆ

ปรากฏการณ์แห่งดวงอาทิตย์และเทียน

ในวันนั้น ตามที่พระแม่มารีย์ประกาศไว้ 5 เดือนก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้น คือมีรูปแบบของครอสลำบากที่ปรากฏอยู่เหนือดวงจันทร์ในฟ้า ซึ่งยืนนานเป็นเวลาไม่กี่นาที ในตาเย็นของฝูงชนหลายคน ดวงแสงสีน้ำเงินพุ่งขึ้นมาเหนือนักบวชแห่งพระแม่มารีย์แห่งความสุขจากทิศทางของรอยต่อของน้ำพุของเซนต์โจเซฟ ในครั้งหนึ่ง พระแม่มารีย์ปล่อยรัศมีสีน้ำเงินออกมา ซึ่งเด็กผู้หญิงที่เป็นบรรดาศักดิ์แห่งพระแม่มารีย์แห่งความสุขเห็นได้ในการปรากฏตัวของพระองค์ ในวัน 9/7/2000 ระหว่างงานสังคายนา ดวงจันทร์เปลี่ยนไปเป็นสีชมพูอยู่หน้าผู้แปลกใจที่มาร่วมกันหลายคน ซึ่งเห็นรอยยิ่งใหญ่ของดวงอาทิตย์ในวันนั้น และไหว้วางใจด้วยความสุข ด้านภาพถ่ายของผู้แปลงเป็นศาสนิกชนนั้น ก็บันทึกเหตุการณ์มหัศจรรย์หลายอย่าง

การรักษาทางกายและจิตวิญญาณ

มีผู้รับประทานสารจากน้ำพุแห่งพระแม่มารีย์ที่ปรากฏตัวในยาคาเรอี มีคนหลายคนได้รับการรักษาทางกายและจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ และแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องของเหตุการณ์ประทับใจนั้น การรักษานั้นเกิดขึ้นโดยทั่วไปจากน้ำพุแห่งพระแม่มารีย์ที่ปรากฏตัว หรือจากการอาบน้ำในน้ำพุแห่งเซนต์โจเซฟ ผู้คนหลายคนส่งผลตรวจและหนังสือขอบคุณแก่พระแม่มารีย์ และเซนต์โจเซฟ ให้กับผู้เห็นเหตุการณ์ประทับใจ มาร์โกส ตาเดอู ซึ่งเผยแพร่ในงานสังคายนาที่ใหญ่มาก หรือในหนังสือรายเดือนของศาลเจ้า

มีคนหลายคนจุดเทียนและวางมาลัยเพื่อขอบพระคุณแก่พระแม่มารีย์ และเซนต์โจเซฟ สำหรับความกรุณาที่ได้รับ การรักษาโรคร้ายที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรก็ตาม ได้แก่ มะเร็ง เลือดออกจากผิวหนัง หูตื้น ตาบอด ล้มป่วย โรคทางระบบหายใจและเลือด เป็นต้น ผู้ใดก็ตามที่ได้รับความกรุณา หรือการรักษาทางมหัศจรรย์ สามารถให้ข้อเท็จจริงได้ ซึ่งจะประกอบด้วย ชื่อ ที่อยู่เต็ม ระบุหมายเลขโทรศัพท์ ประวัติโรคทั้งหมด การรักษาด้วยวิทยาศาสตร์ วิธีการที่เกิดขึ้นในยาคาเรอี ผ่านพระแม่มารีย์ราชินีนาถและผู้ส่งเสริมความสุข รายงานทางแพทยศาสตร์ถ้าเป็นไปได้ และผลตรวจของบุคคลก่อนหลังจากรักษา หนังสือของบุคคลนั้นต้องมีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดประโยชน์

การรักษาจิตวิญญาณและการเปลี่ยนใจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถึงผู้คนหลายพันคน ผู้ที่เป็นชาวคริสต์ใหม่ ชาวจิตวิทยา อเทวนิยม นักบวชโรมันคาทอลิกเย็นชาอะ นักบุญและอัศวินแห่งพระแม่มารีย์ ที่เปลี่ยนใจ ต่อต้านความผิด และร่วงลงไปในที่บริสุทธิ์ของศาลเจ้าแห่งเหตุการณ์ประทับใจ แสดงออกถึงความเสียดายต่อบาปของพวกเขา

มีผู้คนหลายคนที่ไม่ได้เข้าสู่โบสถ์หรือทำพิธีศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลา 30, 40 หรือแม้แต่ 50 ปี กลับมาประกอบพิธีกรรม การยอมรับความผิด และการนำพระเจ้าเข้าสู่ใจกลับมา หลังจากไปที่ศาลเจ้าหรืออ่านข้อความศักดิ์สิทธิ์จากเหตุการณ์ประทับใจในยาคาเรอี จำนวนผู้แปลกเป็นศาสนิกชนนั้นสามารถมาถึง 60,000 คน จากทั่วประเทศบราซิล และแม้กระทั่งต่างชาติ

การถูกปราบปราม

เมื่อเริ่มต้นการปรากฏตัว มาร์คอส ทาเดว์ ต้องทนทุกข์จากคนและพระสงฆ์ในโบสถ์มาก จนนักบุญไม่เชื่อเขา แต่นักบวชเป็นพิเศษ พร้อมกับพ่อครูทั้งหลาย กล่าวว่าเป็นเรื่องโกหก โรคจิต มึนงง และแม้แต่จะกล่าวว่ามันเป็นปีศาจ ในระหว่างการส่งพระเจ้าเผยแพร่ พระสงฆ์ได้ทำให้เกิดความขำขันกับการปรากฏตัวและโต้เถียงอย่างไม่เลิกไม่ลืมในทุกวิธีที่สามารถทำได้ทั้งทางประชาชนและส่วนบุคคล เขาถูกไล่ออกจากหลายๆ โบสถ์เพราะเหตุผลของการปรากฏตัว และถูกล่าอย่างเปิดเผยโดยพระศาสตราจารย์และพ่อครู โดยเฉพาะในมุขนายกแห่งซังโจเซดอส์คัมปัส ที่อยู่ใกล้กับชาเครย์

สถานที่แม่พระปรากฏตัว

มุขนายกแห่งมุขนายกนั้นได้ทำการตรวจสอบทางจิตวิทยาของเขา แต่ไม่ประสบความสำเร็จในโครงการของตนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาครึ่งคิด เพราะผลการทดลองพิสูจน์ว่าตัวเอนั้นมีสุขภาพจิตและสมาธิที่ดีมาก แต่อย่างไรก็ตาม มุขนายกยังส่งหนังสือไปทั่วประเทศให้กับทั้งหมดของปารีชเพื่อให้นักบวชห้ามคนไม่ได้มาเยือนศาลเจ้าปรากฏตัวและจำกัดการแพร่กระจายข้อความจากแม่พระมั่งง่ายที่สุดเท่าไรก็ตาม นักบุญหลายคนจะอนุญาตให้ผู้คนทำงานในโบสถ์ เด็กๆ ทำพิธีรับศักดิ์สิทธิ์ครั้งแรก และเยาวชนได้รับการยืนยัน ถ้าพวกเขาเลิกมาเยือนศาลเจ้าปรากฏตัวที่ชาครีและละทิ้งข้อความ ทำให้คนมากหลายคนทรยศต่อจริตของแม่พระแห่งสวรรค์ที่อยู่ในนี้ ต่อกับความเป็นจริงที่รับรู้ว่าเช่นนั้น และสมองของผู้คน

ประชาชนกำลังอธิษฐานหน้าบันได

บางส่วนยังคงภักดีต่อแม่พระและความจริต โดยทนกับการปกครองนี้ และละเลยเกียรติยศและตำแหน่งที่พวกเขามีอยู่ในโบสถ์เพื่อเป็นฝ่ายของเธอผู้ซึ่งเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ในเวลาแห่งความชั่วร้ายนี้ ที่เราอยู่อยู่ ปัจจุบัน พวกเขายังคงนำชีวิตอย่างเรียบง่ายด้วยการสื่อสาร การอธิษฐานและการปฏิบัติกรรมส่วนตัวที่บ้าน คณะสงฆ์ได้ประกาศตนเป็นศัตรูของปรากฏตัวแห่งชาครี และยังคงพยายามทำลายมันอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่สำเร็จ ในทุกๆ ที่มีเพียงการขำขัน การวิจารณ์และการโต้เถียงต่อกับปรากฏตัวที่ชาเครย์ แต่ในทางตรงกันข้าม การเปลี่ยนแปลงใจยังคงเกิดขึ้นอยู่ที่สถานที่ของปรากฏตัว และผ่านหนังสือข้อความ

การอธิษฐานเดินทางในตอนกลางคืน

เป็นเวลาหลายปีที่มีหินโดนทอดไปยังบ้านของผู้เห็นด้วยกับข้อความ หลายครั้งที่ชาวพรอเตสแตนต์มาที่สถานที่ปรากฏตัวหลายสิบครั้ง ที่ซึ่งพวกเขาได้ทำลายและหักเลิกอย่างไรก็ตาม บางคนที่มาเยือนเพื่ออธิษฐานถึงจุดนั้น และป้องกันไม่ให้มีการทำลายเหลืออยู่ สำเนียงตกลงมาจากพระเจ้าในระหว่างพิธีส่งพระเจ้าแม้แต่เมื่อผู้เห็น มาร์คอส ทาเดว์ อยู่ที่นั่น ในรายการวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงหนังสือพิมพ์และนิตยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งของชาวคาทอลิก การโต้เถียงต่อกับปรากฏตัวและผู้เห็น มาร์คอส ทาเดว์ กลายเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ คนหลายคนที่รักโดย ผู้เห็น มาร์คอส ทาดดิวส์ ได้ทรยศเขา และเริ่มกล่าวถึงการโต้เถียงต่อกับเขา บางครั้งผู้คนล้อมรอบเขาที่ถนนและบ้านของเขา ต้องการจะประหารชีวิตเขาและฆ่าเขา โดยเรียกว่าเป็นโกหก ผู้ใช้เวทมนตร์ เป็นต้น คนหลายคนยังนำข้อความที่เลวร้ายอย่างหนักเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์และโปรสติเตว์ชันมาที่เขา ทำให้เขาประสบปัญหามาก แต่ไม่มีสิ่งใดทำให้น้อยลง และด้วยกำลังใจที่แม่พระแห่งสวรรค์ได้ทานแก่เขา และความกล้าหาญของตนเอง ข้อความแห่งสงบสุขและการเปลี่ยนแปลงจิตใจถึงผู้คนทั้งหมด และมีหลายๆ คนพบกับพระเจ้าและความรอดอีกครั้ง

The Secrets

นอกเหนือจากข้อความที่แม่พระได้สัญญาว่าจะมอบหมายให้ผู้มีอุปทาน Marcos Tadeu ด้วย สิบสามลับ จนถึงตอนนี้ แม่พระได้เปิดเผยสิบสองในสิบสามลับแล้ว เธอกำหนดว่าหากเธอเปิดเผยทั้งหมดแล้ว เราจะไม่มาทุกวันเหมือนปัจจุบัน แต่จะมาเพียงครั้งต่อปี ในวันที่ระลึกการปรากฏตัวของแม่พระ คือ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ หรือในวันเกิดของเขา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ จนกระทั่ง Marcos Thaddeus เสียชีวิตลง การตัดสินใจนี้เป็นความประสงค์ของพระเจ้า

ลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่จะสัมผัสถึงมนุษยชาติทั้งหมด Marcos ไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาของลับได้โดยไม่มีอนุญาตจากแม่พระ เมื่อถามเขา เขาจะตอบเพียงว่า ลับเหล่านี้ดีต่อบางคน แต่ร้ายแก่ผู้อื่น

เกี่ยวกับสิ่งที่สามารถพูดได้ แม่พระอนุญาตให้ผู้มีอุปทานกล่าวประมาณว่าลับเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันแต่ไม่ระบุว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอย่างไร แม่พระบอกว่าลับสามลับแรกเป็นคำเตือนต่อมนุษยชาติ

ลับที่หนึ่งและสองเป็นคำเตือนให้มนุษย์กลับใจและหันมาเฝ้าพระเจ้า GOD. ลับที่สามเกี่ยวข้องกับ อัศจรรย์มหาศาล ที่พระนางจะแสดงแก่โลกทั้งหมด และทุกคนจะเห็นและเชื่อว่ามี พระเจ้า อยู่ แต่แล้วมันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ยากจนเกินไปสำหรับการกลับใจของบางคน อัศจรรย์นี้จะมหาศาล ไม่สามารถอธิบายได้ และไม่ถูกทำลาย ให้แม้แต่หัวใจที่เหี้ยมโหดก็ไม่อาจต้านทานความเชื่อว่ามันเป็นของ พระเจ้า แต่พวกเขาก็จะกลับไม่ได้แล้ว หนาวสั่นและอารมณ์เปลี่ยนแปลงจะครอบงำจิตวิญญาณของพวกเขา เมื่อ 'พวกเขาจะขูดผมหัว และคุยร้ายเรื่องชีวิตที่ใช้ไปโดยไม่มี พระเจ้า' แม่พระกล่าวว่า แต่แล้วมันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ยากจนเกินไป

จะเหลือร่องรอยที่ถาวร ไม่สามารถทำลายได้ และชัดเจนของ อัศจรรย์มหาศาล นี้ในหลายแห่งที่พระนางมารีย์ปรากฏตัวจริง ๆ ในบางแห่งจะเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ ในอื่นๆ จะไม่ใช่ เรื่องลับเหล่านั้นที่เหลือจะเป็นการลงโทษต่อมนุษยชาติ หลังจาก อัศจรรย์มหาศาล ถ้าพวกเขาไม่กลับใจไปเฝ้า พระเจ้า ดังนั้น มนุษยชาติจึงมีเวลาจนกระทั่งปรากฏตัวของ ร่องรอย ให้กลับใจ ผู้ที่ไม่กลับใจจนถึงตอนนั้น จะไม่สามารถกลับใจได้อีก และจะต้องเผชิญกับการลงโทษเพื่อบาปของตัวเอง ลับที่ร้ายแรงสุดคือลับที่สี่ ลำดับเก้า สิบและสิบเอ็ด บางลับก็กล่าวถึงเรื่องดี ๆ ลับที่ห้ากล่าวเฉพาะชีวิตของ Marcos Thaddeus และไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้ จึงเหลือ TWELVE SECRETS ที่จะเปิดเผยแก่มนุษยชาติ ใช่มันกล่าวถึงคริสต์ศาสนจักร ประเทศบราซิล รัฐเซาปาอูลู หรือเมืองชาการาย

Marcos ในระหว่างการปรากฏตัว

เราไม่รู้เพราะจนถึงปัจจุบัน มาร์คอส ตาดียู ไม่เปิดเผยหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่มันหมายถึง เนื่องจากพระแม่พระเจ้าได้กล่าวว่าเวลาที่เหลือไว้สำหรับการบรรลุของความลับนั้นค่อนข้างสั้น และเร็วมาก จึงต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เวลาแห่งพระกรุณาเป็นปัจจุบันนี้ และผู้ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงใจของตัวเอง ก็จะไม่มีอีกต่อไป หลังจากสิ่งที่ถูกทำนายไว้ทั้งหมดเกิดขึ้นแล้ว ความสามารถของซาตานก็จะถูกล้างสะอาดด้วยการทำลายล้างในนรก และความชนะครั้งใหญ่แห่งหัวใจบริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์ ที่ได้รับการทำนายตั้งแต่ฟาติมาและยืนยันอย่างกว้างขวางที่จาเคไร จะเกิดขึ้นกับโลก

นี้คือบางส่วนของข้อความจากพระแม่มารีย์เกี่ยวกับการชนะครั้งใหญ่แห่งหัวใจบริสุทธิ์ของเธอ: ผู้คนที่จะอยู่รอดในยุคสงบและศักดิ์สิทธิ์ซึ่งโลกจะมาเจอกันด้วยความชนะครั้งใหญ่แห่งหัวใจบริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์ จะเป็นผู้ที่ปัจจุบันนี้ วันนี้ เปลี่ยนใจและประยุกต์ใช้ข้อความจากพระแม่พระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ และหัวใจบริสุทธิ์ของพระเยซู ตามคำกล่าวของพระแม่มารีย์ ผู้ที่จะได้รับการรักษาไว้ไม่เกิน 1/3 ของมนุษยชาติ เพราะความผิดของโลกใหญ่มากและมีผู้เปลี่ยนใจน้อยมาก ดังนั้นเราจึงต้องสวดภาวนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ที่ทำบาปได้รับการเปลี่ยนใจ และเพื่อการช่วยเหลือวิญญาณของโลกทั้งหมด เพราะเฉพาะทางนี้เท่านั้น ที่เราสามารถมีส่วนในการส่งพระกรุณาของพระเจ้าไปถึงวิญญาณมากที่สุดได้

เหรียญศักดิ์สิทธิ์แห่งสงบสุข

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 มีผู้คนจำนวนมหาศาล ร่วมกับนักพยากรณ์ มาร์คอส ตาดียู อยู่รอดรับการปรากฏของพระแม่มารีย์

ในชั่วขณะที่พระแม่มารีย์มาเยือน นางพันหงส์ใหญ่หนึ่งปรากฏขึ้นก่อน โดยมีดวงตาที่ลุกไหม้และจ้องนักพยากรณ์ด้วยความเกลียดชัง เขาเสียงหวาดกลัวเมื่อเห็นมัน และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็ดี

ในขณะที่งูเตรียมจะโจมตีด้วยการกัดครั้งสุดท้าย หัวของมันถูกบดอับโดยเท้าของพระแม่มารีย์ ที่ปรากฏขึ้นอย่างสวยงามเหนือมัน

หางของงูตีร้องไปทั่วทั้งด้าน แต่พระแม่มารีย์ยังคงอยู่ในท่าที่สง่างามและมีอำนาจเหนือมัน

พระแม่มารีย์เปิดกอดของเธอกับกัน และปรากฏขึ้นบนมือขวาของเธอเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องประกาย ส่วนในมือซ้ายมีพรหมจรรย์ที่ทำจากลูกปัดที่สว่างไสวน หัวใจบริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์ปรากฏอยู่บนอกเธอ และจากนั้นออกมาเป็นสามเส้นควายหนึ่งสีขาว สองสีแดงและเหลืองทอง ในเมฆที่เท้าของเธอยังมีรูปหัวใจบริสุทธิ์ของพระแม่มารีย์ ที่ถูกซ้อมด้วยก้านไผ่ และจากนั้นออกมาเป็นเส้นควายสว่างใหญ่มากและแสงสว่างมหาศาลในรูปลักษณ์นกลีลา คือ พระจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และใต้มันมีข้อความว่า: "พระราชินีนาถและทูตแห่งสงบสุข"

ภาพเปลี่ยนไปอีกครั้ง พระแม่มารีย์กล่าวกับมาร์คอสว่า

รูปภาพหมุนไปอีกครั้ง และพระแม่มารีตรัสกับมาโคสว่า

"ให้ทำเหรียญที่มีแบบอย่างตามที่ฉันแสดงไว้ คุณเรียกว่า 'เหรียญแห่งสันติภาพ' นี่จะเป็นเครื่องหมายของพระกรุณาแก่ทุกคนที่ใส่มันด้วยความเชื่อและการนับถือ สาตานจะถูกกลั่นแกล้วหนีจากผู้ใส่มันบนอกหัวใจด้วยรักและการนับถือ..."

"ฉันอยากให้เหรียญแห่งสันติภาพแพร่หลายทั่วโลก นี่จะพาไปสู่สันติภาพที่มีสงคราม และเป็นเครื่องมือที่แข็งแกร่งในการรวมกลุ่มครอบครัว... ฉันประกันพิเศษของฉันแก่ทุกคนที่นำมันมาและไหนที่มีเหรียญนั้น ฉันจะอยู่ด้วย พาพระคุณอุดมสมบูรณ์จากพระเจ้า!"

มาร์กัส ทาดดิอุส ถามแม่พระเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์ที่เห็นในเหรียญแห่งสันติภาพ

แม่พระบอกเขาว่า

"ขนมปังศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันถือด้วยมือขวาเป็นบุตรของฉันที่มีชีวิตคือเจซัสไครสต์ และข้อความเกี่ยวกับการแก้ต่างและการบูชาของพระยาห์เวห์ ที่ฉันมาเผยแพร่..."

"ลูกฟ้าแสงสว่างนี้หมายถึงว่า การประกาศที่จะไว้ซึ่งโลกคือมาลาแห่งพระเจ้า..."

"รังสีแสงสว่างจากหัวใจของฉันเป็นสัญลักษณ์ของพระตรีเอกภาพ..."

"งูที่ถูกบดขยี้ใต้เท้าของฉันหมายถึงซาตาน ที่จะถูกบดขยี้โดยฉันที่มีชีวิตในการพิทักษ์ของหัวใจอัครศักดิ์สิทธิ์..."

"สีชมพูเจ็ดดอกที่อยู่ใต้เท้าของฉันเป็น พระคุณแห่งวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งเจ็ด...(ภายหลังในปี 1998 เมื่อเธอแสดงมาลาแสงของครั้งที่เจ็ด แม่พระจะประกาศว่า สีชมพูเหล่านี้ยังหมายถึงมาลาของแสงทั้งเจ็ดที่ถูกเปิดเผยในนี้)"

มาลาของแสงทั้งเจ็ดที่ถูกเปิดเผยโดยแม่พระแห่งจาคาเรย์

"หัวใจที่ล้อมรอบด้วยหนาม คือ หัวใจอัครศักดิ์สิทธิ์ของฉัน ที่ขอให้แก้ต่างและมีความรัก... นกพิราบแสงสว่างหมายถึงวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะมาถึงโลกผ่าน 'ประตูหัวใจอัครศักดิ์สิทธิ์' ในเพนเทคอสทั่วโลกรอบที่สอง..."

"ด้วยเหรียญแห่งสันติภาพจึงเป็นเหรียญที่มีความทำนายและในเวลาเดียวกันก็เป็นเครื่องมือที่ฉันให้คุณใส่ด้วยความเชื่อ และจะได้รับการพิทักษ์ของฉันทั้งหมด!"

แล้ว มาร์กัสจึงยืนขึ้นและรายงานสิ่งที่แม่พระบอกมา ตั้งแต่นั้นเหรียญเหล่านี้ได้ถูกทำและแพร่หลายทั่วประเทศบราซิลและโลก ไม่อาจคำนวณว่ามีเหรียญเท่าไหร่ และจำนวนของพระคุณที่ได้รับผ่านเหรียญนั้นไม่มีสิ้นสุด

เหรียญแห่งสันติภาพสามารถพบได้โดยทุกคนที่มาเยือนจาคาเรย์ในวัดปรากฏการณ์ ในงานมหาสนธยะของเดือนที่ 7

นี่คือข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญสันติภาพของพระแม่:

(พระแม่) "ดูเห็นเหรียญสันติภาพนี้! สันติ... สันติ... สันติ... นี่คือวิธีที่โลกจะพบกับสันติภาพ ถ้าคุณใส่มันด้วยความศรัทธาและการนับถือ.... ดูเถิด ลูกของข้า และกล่าวว่าเหรียญสันติภาพนี้เป็นพระกรุณาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากหัวใจอัครทรรพย์ของข้าซึ่งข้ากำหนดให้ลูกๆ ของข้า... ศัตรูจะถอยหลังไปก่อนเธอกับผู้ใส่มันด้วยศรัทธาและการนับถือ จะได้รับความปลอดภัยจากอันตรายมากมาย และจะรอดพ้นจากนรก ถ้าพวกเขาประกอบพิธีสวดมนต์และไม่ทำผิดพลาดโดยใส่มันบนอกของตัวด้วยศรัทธาและความรัก... ที่ไหนที่เหรียญสันติภาพมาถึงนั้น ข้าจะอยู่กับเธอ 'มีชีวิต'! ทำพระกรุณาที่ยิ่งใหญ่สุดจากองค์ผู้เป็นเจ้านั้น... และผู้ใส่มันบนอกของตัว จะได้รับความแน่นอนอย่างสมบูรณ์ว่า มีข้าอยู่กับพวกเขาและมี 'การป้องกันพิเศษ' ของข้าทั้งในชีวิตและเมื่อตาย...

กล่าวให้ลูกๆของข้าทุกคนทราบว่า ข้าต้องการไม่ให้พวกเขาใส่มันไว้ในกระเป๋าหรือถุงมือ และต้องการให้นำมันไปห้อยรอบคอเหน็บบนอกตัว... ลูกๆของข้าให้ใส่มันบนอกตัว! เหรียญของข้านี่เป็น 'โล่งป้องกัน' ที่ข้ากำหนดให้ลูกๆ ของขาเพื่อปกป้องพวกเขาจากการโจมตีที่ไม่คาดฝันจากซาตาน…" (05/01/2000)

พระแม่ราชินีนาถและทูตสันติภาพ

"เหรียญสันติภาพนี้เป็นพระกรุณาที่ยิ่งใหญ่จากหัวใจอัครทรรพย์ของข้าสำหรับโลกในวันนี้... เหรียญสันติภาพจะทำให้มีการปลดปล่อยจิตวิญญาณมากมาย เพราะเมื่อได้รับมัน พวกเขาจะถูก 'แต่งตัว' และกลับมาเป็นผู้นับถือองค์พระเจ้า... เหรียญสันติภาพจะทำให้ซาตานหวาดผิดหวั่นไหวและเป็นเกียรติยศแก่ พระเจ้า... เหรียญสันติภาพนี้จะตัดสินใจว่าจิตวิญญาณมากมายจะได้รับการปลดปล่อยอย่างถาวร... ไม่ให้จิตวิญญาณใดในโลกทั้งหมดไม่ได้รับเหรียญสันตินี้... ลูกของข้า ให้ทำเหรียญเพิ่มขึ้นอีกหลายชุด... นี่คือภาระการงานของลูกที่จะยืนอยู่จนกระทั่งตาย: - เพื่อให้นำชื่อและความรักของข้ามาเป็นที่รู้จักผ่านเหรียญสันติภาพนี้... นี่คือยาสมุนไพรมหัศจรรย์ที่ข้าให้เพื่อการปลดปล่อยโลก ชุมชนศาสนา และครอบครัว: - การใช้งานเหรียญสันตินี้ของข้า…" (05/02/2000)

"ข้าเป็นราชินีนาถและทูตสันติภาพ นางพระแม่แห่งความเศร้าหมอง และนักบุญของเหรียญสันติภาพ.... ข้าต้องการบอกพวกเธอ: - ปรับตัว... ปรับตัว... ปรับตัว... ทุกคนควรรับประทานชีวิตใหม่อย่างเร่งด่วน…" (03/07/2000)

ใส่เหรียญสันติภาพด้วย ความรัก, ศรัทธา และการนับถือ... แผ่ออกไปให้ทุกคนที่พบเจอ... นี่คือภาระการงานที่ข้ากำหนดให้กับทั้งหมด… (07/03/2000)

(พระเจ้า) "ข้าพเจ้าขอแจกใจว่า: ผู้ที่มีเหรียญสันติภาพ เหรียญศักดิ์สิทธิ์ของมารดา... จะไม่สูญเสีย... ข้าพเจ้าจะไม่ปล่อยให้ (หยุดชั่วครู่) วิญญาณผู้ใส่เหรียญศักดิ์สิทธิ์แห่งสันติภาพของมารดาของข้าไปสูญเสีย... เหรียญนี้ (หยุดชั่วครู่) มาจากความเมตตามีล้นหลามของข้าพเจ้า... เหรียญนี้ (หยุดชั่วครู่) เกิดจากใจที่มีพระคุณอันมหาศาลแห่งข้าพเจ้า...

ข้าพเจ้าบอกกับมารดาของข้า: โอ มารดาที่รักของข้า, ไป... แสดงตัวให้ 'เด็กน้อย' มาร์คอส ดู และบอกเขาให้ทำเหรียญที่มีแบบแผนศักดิ์สิทธิ์ของท่านอยู่ และกล่าวว่า ผู้ใครก็ตามที่ใส่เหรียญนี้จะได้รับ (หยุดชั่วครู่) อันดับแห่งความเป็นอิสระจากภัยพิบัติกับปาฏิหาริย์และเพื่อให้ได้รับสันติภาพ!! และเพื่อได้รับพระคุณธรรมาจากใจของข้าพเจ้า... และมารดาของข้า ทั้งเต็มไปด้วย ความรัก และความจงรักภักดีต่อข้าพเจ้า มาถึงและปรากฏตัวให้เด็กน้อยคนนี้ของเราดู และแสดงตนเองกับเขาในรูปแบบที่ท่านเห็นบนเหรียญศักดิ์สิทธิ์แห่งสันติภาพ...

เพื่อนรุ่น!!! ทำไมถึงยังไม่เข้าใจว่า เหรียญสันติภาพคือของที่ข้าพเจ้าประทานให้ เพื่อช่วยเหลือพวกเธอจากกลุ่มแฝงของศัตรู 'ตลอดไป' ของข้า.... เพื่อนรุ่น!!! ทำไมถึงยังไม่เข้าใจว่า เหรียญสันติภาพ (หยุดชั่วครู่) คือ 'เสาโทรเล็กทริก' ของ แสงศักดิ์สิทธิ์ จากพระบิดาของข้าพเจ้า?....

เพื่อนรุ่น!!! ทำไมถึงยังไม่เข้าใจว่า เหรียญสันติภาพศักดิ์สิทธิ์ของมารดาของข้า (หยุดชั่วครู่) คือ 'โล่' ที่ข้าพเจ้าประทานให้ เพื่อป้องกันพวกเธอจากการโจมตีและหลอกลวงของศัตรูของข้า?....

เหรียญนี้ (หยุดชั่วครู่) เป็นความกลัวแก่ปีศาจ เพราะในมือขวาของมารดาข้าพเจ้า มี ข้าพเจ้า, เยซู-พระกายที่ถูกสักการะ, พระบาทสมเด็จพระนิพพาน!!! และเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับมารดาของข้า ศีรษะของงูจะถูกทับตำและปีศาจจะหนีไป...

จนกระทั่งมนุษย์ได้รับของที่ประทานจาก สองหัวใจ: เหรียญสันติภาพศักดิ์สิทธิ์! (หยุดชั่วครู่) มันจะไม่มีสันติภาพ....

ให้มนุษย์ทุกคนบนพื้นโลกไม่ได้รับและใส่เหรียญสันติภาพ... ข้าพเจ้าต้องการให้นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดของโลกทราบว่า จิตใจของข้าเคยแผ่ออกไปมากที่สุด!! มากเกินไปในเมืองนี้... เพื่อให้โลกรู้ว่าความเมตตามีล้นหลามของข้าพเจ้าน้ำเต็มถึงไม่เคยเห็นมาเลย รวมทั้งที่นี่ในจาแกรอี... ให้โลกทราบว่า 'สถานที่' นี้ถูกเลือกโดยข้าพเจ้ากับมารดาศักดิ์สิทธิ์ของข้า และด้วย พระบิดาทั้งหมด, และ วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ของข้าพเจ้า จาก 'ตลอดไป'...

ที่นี่! จะเป็นแท่นบูชาของโลก…" (07/02/2000)

ปรากฏการณ์ของพระยอเซฟผู้ศักดิ์สิทธิ์

นักบุญโยเซฟผู้มีเกียรติสูงสุดก็ปรากฏตัวในจาเคไรรีหลายครั้งด้วย นับตั้งแต่การปรากฏของพระองค์พร้อมกับพระมารดาพระเจ้าและพระเยซูคริสต์โดยปรกติกำหนดล่วงหน้าหลายวัน แต่อาจมีกรณีที่เป็นข้อยกเว้น

นักบุญโยเซฟปรากฏตัวในร่างของผู้ชายอายุประมาณ 30 ถึง 40 ปี ตาเขียวผมหดำสั้นหน้าผีเล็ก สูงประมาณ 1.75 เมตร (5.74 ฟุต) ด้านใบหน้าเย็นชา แต่มีความสงบสุข พระองค์ปรากฏตัวในร่างทรงผ้าสีน้ำตาลหรือสีขาวบางครั้ง และพระองค์ลอยอยู่เหนือเมฆที่ไม่ได้สัมผัสพื้นดิน เสียงของพระองค์ทำให้เกิดความสงบสุขอย่างมาก

ในปี 1993 พระองค์ปรากฏตัวเพื่อทรงเผยคำแนะนำพิเศษที่จะเปิดเผยในภายหลัง ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นในเดือนกรกฎาคมของปีถัดมา คือ ปี 1994 ผ่านทางอาร์เคิลเซนต์ไมเกิ้ล อีกทั้งในปีเดียวกันนี้ พระองค์ปรากฏตัวอย่างเฉพาะกับมาร์คัสที่แท่นบูชาแห่งศีลมหาสันติของพระเจ้าในโบสถ์หลักจาเคไร ซึ่งพระองค์กอดและสนทนากับเขาประมาณครึ่งชั่วโมง

ในปี 1995 นักบุญโยเซฟกลับมาพร้อมกับพระมารดาพระเจ้าและพระเยซูในงานฉลองวันครบรอบสี่ปีของการปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ต่อมาในปี 1998 มีการปรากฏตัวอีกครั้งของนักบุญโยเซฟพร้อมกับพระมารดาพระเจ้าและทูตแห่งสงบสุข คราวนี้ในวันเกิดของมาร์คัสเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เมื่อพระองค์ให้ความศรัทธาและส่งเสริมแก่เขา และก็ทำให้นักบุญโยเซฟปรากฏตัวกับผู้คนที่อยู่ด้วย พระมารดาพระเจ้าและทูตแห่งสงบสุขได้แสดงออกผ่านตาของมาร์คัส

ในปี 1999 พระองค์กลับมาพร้อมกับพระมารดาพระเจ้าและพระเยซูอีกครั้งในวันที่ 7 กันยายน และ 22 กันยายน เพื่อทรงศีลมหาสันติให้แหล่งน้ำที่กำลังไหลอยู่ในสถานที่นี้ บริเวณตรงข้ามกับแหล่งน้ำของพระมารดาพระเจ้า

ในปี 2000 พระองค์ปรากฏตัวเหนือแหล่งน้ำของพระมารดาพระเจ้า พร้อมด้วยบุตรที่ทรงรับเลี้ยงและภรรยาที่บริสุทธิ์อีกครั้งในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เมื่อมาร์คัสมีอายุ 23 ปี

แท่นบูชาหลักกับพระเยซู พระมารดาพระเจ้าและนักบุญโยเซฟ

ด้วยการเปิดเผยใหม่นี้ ความร่วมมือสามฝ่ายของหัวใจที่สัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดของพระเจ้า พระแม่มารีและนักบุญโยเซฟก็สมบูรณ์แล้ว ใช่ ในคำแนะนำต่อมา พระเยซูคริสต์ทรงมีความประสงค์ให้มนุษย์และศาสนาได้รับการกล่าวถึงว่า "ขอร้องให้นักบุญโยเซฟผู้เป็นบิดาที่ทรงรักมากที่สุดของผองนี้ถูกวางไว้ใกล้กับหัวใจบริสุทธิ์ของพระองค์และหัวใจไม่มีด่างของแม่ศุภวัตีแห่งความสะอาด"

การปรากฏตัวของนักบุญโยเซฟเปิดเผยสิ่งใหม่อันหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการปรากฏจากท้องฟ้า คือ การสวดมนต์เพื่อหัวใจที่รักใคร่อย่างสุดซึ้ง... คือ หัวใจนั้นเคลื่อนไหวอยู่ในอกบริสุทธิ์ของพระองค์ และตามความกล่าวของพระองค์เองว่า ยังไม่เสียหายและยังคงอยู่บนโลกนี้ที่หนึ่งแห่งใด กำลังรอวันสุดท้าย เมื่อจะทรงฟื้นขึ้นในเกียรติเพื่อเข้าร่วมกับบุตรที่ทรงรับเลี้ยงและภรรยาที่บริสุทธิ์ของพระองค์ในความสว่าง

การสักการะบนโลกนี้ได้แสดงล่วงหน้าว่าจะทำกับพระองค์โดยตรงในความรุ่งโรจน์อันเป็นที่สุด หากเราสามารถช่วยตัวเองได้ การเคารพสามอย่างต่อหัวใจศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ที่ท่านมาร์เกริตแมรีถูกขอให้ทำ การเคารพต่อหัวใจไม่มีบาปแห่งแม่มารีย์ที่ฟาติมาขอ และการเคารพต่อหัวใจรักใคร่สุดๆ ของนักบุญโยเซฟ ที่ท่านมาโกส ทาเดโอในชากาเรย์ขอ เป็นองค์ประกอบหลักของข้อความนี้ในวัยสุดท้าย คือ ความรัก การแก้แค้น และการมีส่วนร่วมกับหัวใจเหล่านี้ที่ไม่ได้รับความรักและตอบสนองจากมนุษย์ผู้ไร้ศรัทธา การแก้แค้นนี้ประกอบด้วยการหลีกเลี่ยงบาป ความบริสุทธิ์ และการดำรงชีวิตตามข้อความ

ส่วนหนึ่งจากข้อความของนักบุญโยเซฟ: "ฉันรักคุณด้วยความรักของบิดา!... ฉันปกป้องศาสนาแห่งพระเจ้า ครอบครัวและทุกคนเหมือนกับบิดาประจำลูกๆ ดังนั้น ลูก ๆ ที่อยู่ภายใต้การปกป้องของฉันโดยพระเจ้าที่นั่งข้างเคียงแม่ที่เป็นบุญธรรม และพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงมีความจงรักภักดีต่อฉันทีในโลก...

พระเจ้าเจ้าประสงค์จะช่วยชาติใหญ่นี้ แต่... เพื่อช่วยมันได้ ต้องมี 'น้ำท่วม' ของการสวดมนต์ที่สามารถถึงฟ้าจึงทำให้มือของ บิดาแห่งความเป็นจริง ช่วยโลกนี้ ซึ่งถ้าไม่เชื่อตามคำพูดของแม่บุญธรรมฉัน (หยุดชั่วครู่) จะไม่มีการได้รับการช่วยเหลือ...

ลูก ๆ (หยุดชั่วครู่) เป็นคนดี! ไม่นิ่ง 'คำพูดที่ไร้ศรัทธา'... เปลี่ยนใจและปรับปรุงตัวเอง...

เป็น 'คนดี' (หยุดชั่วครู่) คนดีมาก! เป็นบุญธรรม มากๆ บุคลิกที่สงบสุข (หยุดชั่วครู่) สงบสุขมากๆ... เป็นผู้ถูกต้อง มากๆ เป็นสมบูรณ์แบบเหมือนกับ บิดา ในฟ้าเป็นอย่างนั้น!

เมื่อรู้สึกสงสัย ให้ไปอยู่คนเดียว (หยุดชั่วครู่) เพื่อทูลละหมาด เมื่อเงียบงัน (หยุดชั่วครู่) และการทูลละหมาด ฉันจะมาช่วยคุณเลือก 'สิ่งที่ถูกต้อง'.... เมื่อถูกล่าเล่าถึงฉันและฉันจะให้ความสะดวกใจ... เมื่อรู้สึกเสียหวัง ให้ไปยืนเย็นกับมือของฉันที่อยู่เปิดออกเพื่อพ่น 'พระคุณ' ที่พระเจ้าทรงไว้ใต้การปกครองของฉัน

ฉันจะสอนให้ รัก คำสั่ง ของ พระเจ้า! ฉัน จะสอนให้ดำรงชีวิตกับ พระองค์! ฉัน จะสอนให้เคารพและประสงค์เพื่อ พระองค์.... ฉัน จะสอนให้ รัก, ใช้งาน และประสงค์ (หยุดชั่วครู่) แม่ที่หวานงามสุดๆ ของทุกคน...(หยุดชั่วครู่) ฉันต้องการเป็น 'สะพาน' ที่นำคุณไปถึง หัวใจศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง...

หัวใจไม่มีบาปแห่งแม่บุญธรรมมารีย์ของฉัน คือ 'ประตูฟ้า' (หยุดชั่วครู่) และการเคารพต่อฉันทีกับหัวใจของฉัน เป็น 'กุหลาบ' ที่เปิด 'ประตู' นี้!

พระหฤทัยที่รักมากของนักบุญโยเซฟ ให้อุปถัมภ์เรา! ... และฉันจะมา ช่วยเหลือพวกคุณ ทุกคน คณะกรรมการแห่งโลกและวิญญาณ!... เมื่อดูพระแสงสว่างของข้า ซาตานจะตาบอดและไม่สามารถทำร้ายพวกคุณได้อีก...

ฉันมีภาระการนำบราซิลไปสู่ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของพระหฤทัยบริสุทธิ์แห่งมารดาเทพีผู้อ่อนโยนนี้! ถ้าคุณเรียกข้าเพื่อประสงค์ดีแก่บราซิล ฉันจะช่วยเหลือคุณ.... วันนี้ ในวันนี้ ข้าบรรจุพระสถิตย์ของสมเด็จพระสันตะปาปา โจวาน ปอล ที่ 2, ผู้เป็นภาพจำลองของข้าบนโลก... (ผู้พิทักษ์และพ่อ) เพราะเขาสมรสกับคณะกรรมการเหมือนฉันสมรสกับแมรี พระแม่บริสุทธิ์! ข้าประทานพระกรุณาแก่เขา และปิดผืนด้วยเสื่อศักดิ์สิทธิ์ของข้า ... และต่อพวกคุณทั้งหมด ฉันประทานอภัยสถานที่สามีพระไตรยะได้อนุญาตให้ฉัน... ในนามของ พระบิดา... พระบุตร... และ พระจิตเจ้าสวรรค์…"

วันที่ 7 กุมภาพันธ์
วันแห่งราชินีและสารทูตสงบสุข

ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1993 พระแม่มารีย์ได้ร้องขอให้วันที่ 7 ของเดือนนั้นถือเป็นวันแห่งมาเรีย วันสำหรับการประกาศและเสนาธิการพิเศษที่เฉพาะเพื่อเธอ เพราะว่านี้คืบคลุมถึงวันที่แรกของปรากฏพระองค์ในจาคาเรย์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 ต่อมา พระแม่มารีย์ได้ขอให้วันนี้เป็นเทศกาลแห่งราชินีและสารทูตสงบสุขทั่วโลก เพราะว่านี้คือวันที่เธอบรรยายกับเด็กชายมาร์โกส ทาเดียวครั้งแรก ในวันที่นั้น ควรจะทำพิธีกรรมของพระธรรมจักรเพื่อความสงบสุข และรับศีลมหาสนิทเพื่อให้โลกมีความสงบสุข ตั้งแต่นั้นมา วันที่ 7 ของเดือนนี้ได้ถูกระลึกถึงด้วยการประกาศพระธรรมจักรแห่งมารดาเทพี ซึ่งเริ่มตั้งแต่หกวันก่อน และไม่สิ้นสุดลงจนกระทั่งเย็นวันที่ 7

พระธรรมจักรแห่งสงบสุข

ในช่วงแรก พระเจ้าและพระแม่มารีย์ได้ประกาศสัญญาณโลกระหว่างมหาสนิท ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนที่ 7 ตั้งแต่พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 มันถูกย้ายไปวันอาทิตย์ของเดือนนั้น เป็นวันที่มีคนมากถึงล้านๆ คนจากทั่วบราซิลและแม้กระทั่งต่างประเทศด้วย บางครั้งฝูงชนจะใหญ่กว่า 40,000 คน และได้เพิ่มขึ้นไปจนเกิน 60,000 คน เป็นหลักในวันนี้ที่มีการปรากฏอัศจรรย์ การรักษาและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก

ต้นแห่งปรากฏพระองค์

ตั้งอยู่ที่สถานที่ใหม่ของการปรากฏตัว เป็นสถานที่ที่พระนางและพระเยซูคริสต์ทรงเลือกมาปรากฏตัว และวางเท้าที่ศักดิ์สิทธิ์สุดแสงของพระองค์ และสื่อข้อความในวันอาทิตย์แรกของเดือนทุกเดือนและวันที่อื่น ๆ นอกจากนี้ยังเป็นที่แห่งการปรากฏตัวของนักบุญโจเซฟ นักบุญบาร์บารา นักบุญไมเคิล และนักบุญราฟาอีลอัครเทวดา เทวนิรมิตสันติภาพและวิญญาณในปุโรหิต มีการกั้นด้วยระเบียงเพื่อไม่ให้ถูกโปรยประชิด หรือมีคนขาดกระท่อมออกไปโดยอ้างว่าเป็นความเคารพใจหรือจากจิตใจที่จะทำลาย เพราะพวกเขาแสวงหาที่จะเอากิ่งไผ่ของมัน

ภาพถ่ายหลายชุดที่ถูกยิงเมื่อเวลาแห่งการปรากฏตัวแสดงให้เห็นอัศจรรย์ลักษณะ สีและเพลิงอย่างแจ่มใส ทำให้นักบุญโดนมันเป็นสิ่งประกอบของธรรมชาติในขณะนั้น เรามักจะรู้สึกสงบสุขมหาศาลและความปรากฏตัวที่ไม่ใช่ธรรมชาติกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้

ต้นแห่งการปรากฏตัว

คนหลายพันร้องเพลงสวดมนต์หน้าต้นไม้นี้ เป็นฐานที่แท้จริงของหัวใจศักดิ์สิทธิ์สองแห่งของพระเยซูและแมรี เกี่ยวกับการปรากฏตัวของพระนางที่ต้นแห่งการปรากฏตัว พระนางได้กล่าวถึงมันในข้อความบ้างแล้ว

ทางแห่งสวดมนต์โรเซอรี่

ตั้งอยู่ระหว่างที่ขึ้นจากแหล่งน้ำลึกลับและต้นแห่งการปรากฏตัว พระนางทรงขอให้มีกางเขนห้าองค์ถูกวางตามทางจากแหล่งน้ำของความกรุณาไปยังต้นแห่งการปรากฏตัวเพื่อหมายถึงปริศนาไม้สี่แห่งของโรเซอรี่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ในกางเขนนั้น คิดถึงปริศนามหาสีของโรเซอรี่ ตามวันนั้น วางครูซิฟิกส์ใต้ต้น และทุกคนควรจะจูบมันเมื่อสวดมนต์เสร็จแล้ว ขอให้ได้รับการไถ่โทษจากความผิดพลาด... กระตุ้นที่จะมีอยู่เพียงพอกับผู้ทำเช่นนี้..." (30 มีนาคม 1999) พระนางทรงกล่าวว่า ปริศนามหาสีใดก็ได้สามารถคำนึงถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นปริศนาแห่งความสุข ความเศร้า หรือความยิ่งใหญ่ พระองค์ยังทรงขอให้มีการสักครูซิฟิกส์ด้วยสีขาว แต่ไม่กล่าวเหตุผลของสี

ที่ปลายทางนั้น พระนางทรงขอให้วางครูซิฟิกส์เล็ก ๆ เพื่อให้นักบุญของพระองค์สามารถจูบมันได้ด้วยความเสียใจ พระองค์สัญญาว่าผ่านการจูบที่นี้ ที่ทำหลังจากที่ขึ้นทางนั้น ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และถูกอวยพรโดยพระนาง สวดมนต์โรเซอรี่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีความเชื่อจะได้รับกระตุ้นแห่งการสำนึกผิดอย่างแท้จริงของข้อผิดพลาด ความเศร้าใจจากบาปและผลกระทบคือการเปลี่ยนแปลง หากทำด้วยจุดประสงค์ที่เป็นไปตามความหมาย

โดยวิธีนี้ ผู้มีความเชื่อจะสามารถขึ้นมาที่ต้นแห่งการปรากฏตัวเพื่อสวดมนต์ได้ พระนางทรงกล่าวว่า มีกระตุ้นพิเศษที่ถูกกำหนดให้กับคำขอในทางของโรเซอรี่ ซึ่งพระองค์สามารถยกให้แก่ผู้ทำทางนี้ด้วยความเชื่อและความมั่นใจ และเราไม่เข้าใจค่าแห่งการปฏิบัติตามงานศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่ในอนาคตจะเป็นอย่างนั้น

ทางของกางเขนที่สถานทูติยะ

มันตั้งอยู่ด้านหลังของเขาที่มีต้นไม้แห่งการปรากฏตัว เรือพระแม่ท่านได้ขอให้ทางสายรักถูกกำหนดและกางเกงถูกวาง: "ผมยังต้องการให้ทางสายนี้จะเป็นสิ่งของนี้..." (30 มีนาคม 1999) เพื่อที่พระองค์เองจะอวยพรรณาที่นั่น ซึ่งท่านได้ทำในการปรากฏตัวที่กางเกงแห่งความรุ่งโรจน์ ในวันและเวลาที่กำหนดไว้โดยเธอนั้น ท่านกล่าวว่าประโยชน์พิเศษจะมีสำหรับผู้ที่มารับประทานด้วยการอธิษฐานทางสายรักด้วยความเคารพและความจงรักภักดี: "ทั้งหมดที่มาเยือนนี้เพื่อทำทางสายนี้ ในวันใดก็ตาม และเวลาใดก็ตาม จะได้รับจากหัวใจของผม สันติภาพและการป้องกัน... ผู้ที่ทำด้วยความเคารพจะได้รับพระคุณจากผมในการรู้สึกลึกลงไปถึงศูนย์กลางของหัวใจ พวกเขาแห่งความทุกข์ และอัณฑะของเยซัส... ที่จากหนึ่งสถานีไปยังอีกสถานีนึง จะมีพระบิดาหนึ่งและเจ็ดพระแม่มารีย์ที่จะถูกอธิษฐาน ในเกียรติแก่ความทุกข์ และน้ำตาของผม... โดยเฉพาะผู้ที่มาในวันพุธและวันศุกร์ เพื่อทำทางสายนี้ จะได้รับพระคุณจากหัวใจของผม... มีคนบาปหลายคนจะถูกแปลงเป็นดีที่นี่ ในทางสายนี้ และใต้กางเกงใหญ่นี้ ที่ผมนั่งร้องขอให้ผู้มีความบาปทั้งโลกในวันและคืนนั้น... นี้นักบุญของพระวิหารของผม... ผู้ที่รักผม ให้ตามผมด้วยการทนทานที่นี่..." (1 ตุลาคม 1999) ทางสายนี้เป็นหนึ่งในหลายสิ่งพิเศษจากหัวใจบริสุทธิ์แห่งพระแม่มารีย์ในวิหารของเธอ

มีกางเกงไม้ 14 กางเกงที่หมายถึงสถานีทางของเยซัสและแมรี่ไปยังคัลวาเรย์ ในไม่ช้า จะมีภาพเขียนแห่งวิาดอลอโรซาที่จะถูกวางไว้ ผู้แปลกหลายคนทำทางนี้โดยการพิจารณาลึกเกี่ยวกับความทุกข์ของเยซัส มันเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้นของสถานีรถยนต์และสิ้นสุดที่กางเกงแห่งความรุ่งโรจน์ ที่นั่น พวกเขาก็จะอยู่บนหัวเพื่ออธิษฐานและขอให้ได้รับการไหม้จากความผิดพลาดของพวกเขา

เป็นสถานที่งามที่หญ้าเขียวมันดูเหมือนกับฝ้ายใหญ่ ที่ทำให้เส้นทางขึ้นเขาที่แข็งกลายเป็นอ่อนยาว <!— จากจุดที่กางเกงแห่งความรุ่งโรจน์อยู่ น้ำพ่นประหลาดของพระแม่และชาเปลที่กำลังสร้างอยู่สามารถเห็นได้ทางด้านซ้าย และต้นไม้แห่งการปรากฏตัวทางด้านขวา —>

น้ำพ่นของพระแม่

น้ำพ่นแห่งความกรุณา

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1999 ที่สถานที่ใหม่อันเป็นที่รู้จักว่าวิหารแห่งการปรากฏตัวของเยซัสและแมรี่ในฆาคารี มาร์คอส หลังจากข้อความสั้นๆ ที่ได้รับจากมาโครส์ พระแม่ท่านเริ่มเคลื่อนไหวไปทางซ้าย ไม่อยู่หลังกับมาโรส ผู้ที่เริ่มตามเธอนั่น ในการเดินของพระองค์ มารีย์ลงไปในหุบเขาเล็กๆ และให้คำสั่งแก่ผู้เห็นว่า มาร์โครส์ต้องก้มตัวและขุดดินด้วยมืออยู่ที่จุดที่ท่านชี้ออกมา มาร์โกสทำตามคำสั่งของเธอ และจากจุดนั้นน้ำเริ่มไหลออกมา แรกเป็นเหลวแล้วกลายเป็นใสในปริมาณมหาศาล พระแม่ท่านซ้ำการให้คำสั่งหลายครั้งและเมื่อมาร์โกสขุดมากขึ้น น้ำที่ใสก็เพิ่มขึ้น ผู้ศรัทธาไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ

มาโรส์ค้นพบน้ำพ่นของพระแม่

พระแม่มารีย์ทรงกล่าวว่า: "ข้าพเจ้าประทานพรพิเศษแก่น้ำในบ่อนี้ และตั้งแต่นี้ไป น้ำที่ไหลออกจากนั้นจะรักษาโรคหลายชนิด และเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันไม่มีสิ้นสุดของข้าพเจ้าต่อทุกคนของข้า เพื่อให้เกียรติแก่ พระเจ้า!... ข้าพเจ้าประทานพรแก่น้ำในบ่อนี้ ให้น้องๆทั้งหลายได้ดื่มและถูกรักษาแต่ใจ และกาย... ถูกรักษาจากโรคและความติดต่อ... ทุกคนที่มาที่บ่อเล็กแห่งนี้ด้วยศรัทธาและความเชื่อ จะรับพรใหญ่จากหัวใจของข้าพเจ้า นี้เป็นบ่ออัศจรรย์ตั้งแต่วันนี้แล้ว... และทุกคนที่สวดพระคริสต์มาส์และดื่มน้ำจากนั้นด้วยศรัทธาและ ความรัก จะรับพรใหญ่ทั้งใจและกาย! เรียกบ่อแห่งนี้ว่า "บ่อของพร"

ในวันที่ 30 มีนาคม มีการประทานพรแก่บ่ออีกครั้งตามด้วยข้อความ หลังจากนั้น ในวันที่ 2 เมษายน ของปีเดียวกัน วันศุกร์ที่ดี พระแม่มารีย์ประทานพรแก่บ่ออีกครั้ง โดยเพิ่มพรและคำสัญญาให้กับน้ำนี้ผ่านความเจ็บป่วยและน้ำตาของพระองค์

พระเยซูเองก็กล่าวถึงบ่อหลายครั้ง และประทานพรแก่มัน

บ่อของพร

มีผู้คนจำนวนมากที่ได้รับการรักษาแล้วจากน้ำอัศจรรย์นี้ รวมถึงการแสดงผลตรวจโรคก่อนและหลังการรักษา พร้อมกับรายงานส่วนตัวให้แก่ผู้เห็นปรากฏการณ์ มาร์โกส ตาดิโอ เพื่อยืนยันและบันทึกพรอัศจรรย์นี้ในภายหลัง ทุกเอกสารทั้งหมดกำลังกำหนดเก็บไว้ พระแม่มารีย์ของข้า น้ำอัศจรรย์สามารถรับได้ทุกวันที่ศาลเจ้าตั้งแต่ 8 น. ตรู่จนถึง 5 ต.

สถานแห่งการประกาศและการสมาธิในข้อความ

เกิดขึ้นทุก อาทิตย์ ตลอดเวลาเป็น 9:00 น. และสิ้นสุดราว 4:00 ต.

เป็นระหว่างสถานแห่งนี้ ที่พระเจ้าและพระแม่มารีย์ทรงประทานข้อความแก่โลก

ตารางเวลาของศาลเจ้าประกาศการปรากฏพระองค์

สถานที่ปรากฏพระองค์เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 9:00 AM ถึง 5:00 PM, ทุกวัน รวมถึงวันอาทิตย์เมื่อมีการจัดงานเซนาคล์ของปรากฏพระองค์เริ่มต้นที่ 9:00 AM. น้ำพุแห่งความประทับใจของพระแม่มารียา พระเจ้า และนักบุญโยเซฟเสมอมาเป็นปรกติและสามารถเข้าชมได้ทุกวัน อย่างไรนั้นเราต้องจำได้ว่าเช่นเดียวกับการเข้าสู่ศาลเจ้าด้วยเครื่องแต่งกายที่ไม่เหมาะสมถือว่าผิด แต่ในสถานที่นี้ ที่เป็นสถานที่บริสุทธิ์ ก็ผิดเช่นกัน ถ้าเข้ามาโดยใส่ชุดขนาน้ำ ผ้านัด สวมเสื้อแบบทับหัว เสื้อยาวแคบ หรือเครื่องแต่งกายที่ไม่เหมาะสมและทำให้พระเจ้าและพระแม่มารียาประทับใจไม่ดี นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้นำสัตว์เข้ามาหรือมาเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกไปจากการอธิษฐานและทำบุญ

น้ำพุแห่งพระจิตใจที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู